Touching Myanmar Life Day 4


กลับไปชมวันที่ขึ้นพระธาตอินทร์แขวน click
วันที่ 6 ธันวาคม 2557 เดินทางสู่ย่างกุ้งอดีตเมืองหลวงแห่งพม่า
เช้าวันนี้ผมยังคงอยู่บนเขาไจ๊โถ ตื่นตีห้าอาบน้ำและรีบออกไปชมพระธาตุก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ชมความสวยงามของพระธาตุอีกครั้ง ขณะเดินไปพระธาตุชาวพม่าต่างกันเดินเข้ามาเป็นจำนวนมากหอบข้าวของกันมาเป็นครอบครัว ราวกับมาปิคนิคเลยแต่ก็มีคนกลับเช่นเดียวกัน ทำให้คนในช่วงเช้าก็ค่อนข้างมาก เมื่อมาถึงองค์ประธาตุควันธูปยังคงปลกคลุมอยู่เช่นเดิม
ในช่วงเช้าจะไหว้ด้วยอาหารสดต่างๆ เช่นเดียวกับการไหว้ในประเทศไทย ชาวพม่าจับกลุ่มกันนั่งสวดมนต์กันอย่างเรียบร้อย ส่วนชาวต่างชาติก็ยังคงถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน หลังจากชมองค์พระธาตุเสร็จแล้วก็กลับที่พักทานข้าวเช้า ซึ่งเจอกับคนไทยมากมายเนื่องจากเที่ยวช่วงวันพ่อบางกรุ๊ปทัวร์นัดออกจากที่พัก 7 โมงเช้า บางกรุ๊ป 8 โมงบ้าง ผมจึงลงกัน 7.40 จะได้ไม่ตรงกับคนไทย


ก่อนจะเดินทางลงจากองค์พระธาตุได้พบกับสามสาวที่เราเจอกันตอนขาขึ้นเธอจำพวกเราได้ครับดีใจกันใหญ่เลย (เวอร์) จึงได้ขอถ่ายรูปกับเหล่าสาวพม่าเป็นที่ระลึก แม้จะไม่ได้มีช่องทางติดต่อกับเธออีกแล้ว แต่ครั้งหนึ่งเราคงมีบุญร่วมกันมาทำให้ได้มาเจอกันที่นี้ครับ


แปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อลัดคิวขึ้นรถขนหมู
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าขาลงจากเขานั้นเราลงด้วยรถขนหมูเช่นเดียวกัน ไม่ว่าชาวพม่านักท่องเที่ยวมักนิยมจะลงกันในตอนเช้า จำนวนผู้คนนั้นล้านแปดมาก แม้จะมีแถวให้ต่อเพื่อขึ้นรถแต่หากใครมีความสามารถในการปีนป่ายก็จะสามารถชิงที่นั่งได้โดยไม่มีการโดนต่อว่าแต่อย่างใด (ที่พม่า only) ดังนั้นใครเป็นผู้ดีต่อแถวแล้วอาจจะต้องต่อไปอีกยาวนาน จึงขอแนะนำให้แต่งตัวให้ถนัดสวมกางเกงผ้ายืด ให้สามารถอ้างขากว้างๆ ได้ หากมีสัมภาระกระเป๋าก็อนุญาตให้ใช้โยนจองที่ก่อนได้(ผมใช้วิธีนี้ได้) แล้วก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ป้า มองหาทำเลรถมาแล้วก็วิ่งขึ้นทันทีครับ

ประสบการณ์ของผมมาถึงรถขนหมูคันแรกเต็มแย่งไม่ทัน แต่มีกลุ่มทัวร์คนไทยลงไปนั่งแล้วแต่มี เพื่อนนั่งไม่ครบลุกออกจากที่นั่งไปสามคน ชาวพม่าจึงตะโกนว่าว่างอีกสามที่ ในเวลานั้นผมฟังภาษาพม่าออกได้ไงไม่รู้ โยนกระเป๋าจองที่พร้อมตะโกนบอกว่าสามคนกลุ่มผมเป็นภาษาไทย (แต่คนพม่าคงจะไม่เข้าใจ) พร้อมทั้งปีนขึ้นจากท้ายรถก้าวข้ามคนพม่าสองแถว แต่ก็เจอป้าสองคนแย่งที่ได้ก่อน Skill ชาวพม่าสูงมาก ผมรักษาที่นั่งได้เพียงหนึ่งที่ เลยได้ขึ้นรถขนหมูเป็นคนแรกของกลุ่ม และบอกเพื่อนๆว่า See you next station เจอกันด้านล่าง ไปก่อนนะตัวเธอ 

หากไปกับทัวร์แล้วก็เห็นหลายคนนัดบริเวณกันด้านล่าง แล้วกระจายกันขึ้นรถ แนะนำให้เดินออกมาไกลๆ หน่อยเพราะรถขนหมูมีหลายคันค่อนข้างมาก และกระจายกันจะเร็วกว่า

เดินทางกลับย่างกุ้ง


ผมลงมาถึงค่ายคินปุนแคมป์เวลา 9.00 น. ก็พบว่าด้านล่างนั้นมีคนเป็นจำนวนมาก(วันเสาร์) ผมจึงเข้าใจว่าหากไปเที่ยวเองวางแผนได้ ไม่อยากเจอผู้คนมากมายอย่าไปช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ และวันพระ แต่ข้อดีมาช่วงที่ผู้คนมากคือเราจะได้เห็นถึงแรงศรัทธาของชาวพม่า ผมเดินเล่นด้านล่างสักพักก็ขึ้นรถทัวร์ที่จอง รถออกตรงเวลาตอน 10 โมง


สภาพรถขากลับดูดี แต่แอร์ยังคงอ่อนแรงเเหมือนเดิมผมนั่งด้านฝั่งซ้ายมือโดนแดดเต็ม บางช่วงก็ร้อน บางช่วงก็เย็น มีหลับบ้างเพราะเหนื่อยครับ นั่งรถอีกสามชั่วโมงก็จองพักทานข้าว ซึ่งที่พักกลางทางนั้นมีอยู่แค่ร้านเดียว อาหารค่อนข้างหลากหลาย แต่ผมก็ยังทานเหมือนเดิมขนมจีนพม่า

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วก็นั่งรถเดินทางต่ออีกสองชั่วโมง ถึงย่างกุ้งเวลาประมาณบ่ายสามโมงที่สถานีรถโดยสาร อองมิงกาลา Aung Mingalar Highway Bus Center


เรียกรถเข้าเมืองย่างกุ้ง
เมื่อผมลงจากรถทัวร์แล้วก็จะมีพี่หม่องล้อมเราทันทีราวเป็นคนดัง พร้อมทั้งสอบถามว่าจะไปไหนแล้วก็มักจะชูกุญแจแสดงตัวตนว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้าของ Taxi ผมวางแผนเข้าที่พักก่อนจึงให้รถเข้าไปส่งที่ มยินต์ เมียต เกสท์เฮาส์ (Myint Myat Guest House) พี่หม่องคนแรกบอกว่าคนละ  5 US รวมแล้วราคา 15,000 จ๊าด เท่าที่สืบราคาจากอินเตอร์เนตมาประมาณ 8,000 จ๊าด จึงได้ต่อรอง แต่พี่หม่องสุดเคี่ยวไม่ยอม เราก็อย่าได้แคร์เดินหาที่รถคันอื่นได้ คันต่อไปได้ราคา 10,000 จ๊าดก็ถือว่ายังมากก็ไม่สนใจ สุดท้ายได้ราคา 9,000 จ๊าดแม้ว่าจะแพงกว่าที่สืบราคามาแต่ก็ขี้เกียจหาแล้ว เมื่อตกลงราคาได้พี่หม่องที่โชว์กุญแจว่าเป็นเจ้าของรถก็พาเราไปส่งต่อให้คนขับอีกคัน (โดยค่าหัวคิวอีกแล้ว)
Taxi ในย่างกุ้งนั้นไม่นิยมเปิดแอร์ เวลานั้นร้อนมากผมเอาหมวกมาพัด พี่ taxi ก็หยิบพัดมาให้ซึ่งคาดว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับลูกค้า ได้พัดแบบนี้ก็ทำให้อากาศเย็นหน่อยแต่ก็ยังร้อนเหงื่อตัวเปียกทั้งตัวตลอดการเดินทางในย่างกุ้ง

รอบๆย่างกุ้ง มีโซนที่เจริญและไม่เจริญอยู่ร่วมแล้ว ส่วนใหญ่เป็นตึกสูงถึง 7-8 ชั้น สูงมาก เวลาขับรถคนขับจะบีบแตรตลอดทางแต่คนขับไม่มีที่ทางจะโมโหแม้จะมีเสียงแตรดังมากมาย


เมื่อใกล้ที่พักแล้วคนขับก็หาที่พักที่เราไม่ได้ ใช้เวลาหาอยู่ประมาณ 20 นาที เพื่อนๆต้องลงไปช่วยกันเจอหญิงชาวพม่าใจดีช่วยหาด้วย เธอช่วยโทรพาไปหาแต่สุดท้ายพี่คนหนึ่งก็เจอ ห้องพักที่เราจะไปพักนั้นอยู่ชั้น 7

สภาพที่พัก ด้านหน้าจะมีป้าย Myint Myat Guest house เล็กๆอยู่หน้าทางเข้า เมื่อแจ้งว่าเราจะมาพักจะมีพนักงานค่อยกดลิฟต์ พาเราขึ้นไปชั้นเจ็ด เมื่อเก็บของแล้วก็พักประมาณ 15 นาทีก่อนออกเที่ยวในเมืองย่างกุ้ง ที่ต้องรีบออกเพราะเราอยากไปชมชเวดากองช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก

บรรยากาศที่พักเมื่อขึ้นไปแล้วรู้สึกดูดีกว่าภายนอก ห้องนอนแอร์เย็นมาก ห้องน้ำก็สะอาด ดูปลอดภัย สำหรับผมแล้วค่อนข้างชอบ ชมที่พัก จองที่พัก

วัดเจ้าทัตจี
Chauk Htat Gyi Pagoda

ผมนั่งรถจากที่พักมาวัดเจ้าทัตจีราคา 3,000 จ๊าด ภายนอกนั้นดูแล้วเหมือนเป็นโซนบ้านตึกแถวทั่วไปแต่ภายในมีศาลา มองจากด้านนอกด้านในค่อนข้างมืด ตอนแรกมองไม่ค่อยเห็นเมื่อเดินเข้ามาแล้วจะเห็นถึงความใหญ่โตอลังการขององค์พระปางไสยาสน์ มีความสง่าสวยงามดูแปลกตามาก
เมื่อได้มองแล้วจะเห็นได้ถึงความสวยงามไม่ว่จะดวงตา ขนตา ปากต่างเติมแต่งได้อย่างสวยงามมากเหมาะกับชื่อว่าพระนอนตาหวานเลยครับ
หากต้องการถ่ายภาพทั้งองค์พระนั้น ทำได้ค่อนข้างยากต้องเดินมาที่ปลาเท้าจึงจะสามารถถ่ายรูปรูปองค์พระเต็มองค์ได้ ดูมุมนี้สวยงามมากครับ

หลังจากได้กราบไหว้เรียบร้อยแล้วก็สามารถเดินข้ามถนนไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งที่ควรไป

วัดงาทัตจี
Nga Htat Gyi Pagoda
อ่านข้อมูลจากหนังสือแล้วจะต้องเดินขึ้นทางชัน แต่ผมเดินแล้วรู้สึกว่าไม่เหนื่อยมาก ค่อยๆเดินได้ เมื่อเดินไปถึงแล้ว วัดแห่งนี้ค่อนข้างเล็ก แต่จุดเด่นอยู่ที่องค์พระประธาน

องค์พระประธานมีความใหญ่มาก ทรงเครื่องกษัตริย์อย่างสวยงามแปลกตา ดูขลังมาก ซึ่งผมค่อยข้างประทับใจและน่าเลื่อมใสมาก หลังจากที่ได้ชมเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปยังเจดีย์ชเวดากอง

เจดีย์ชเวดากอง
Shwedagon Pagoda

Taxi จากวัดงาทัตจีมาชเวดากองไม่ไกลมาก คนขับพาเรามาขึ้นด้านที่มีลิฟท์ให้ด้วยแต่เราไม่ได้ขึ้นลิฟท์อยากเดินขึ้นเองมากกว่า ก่อนเข้าเจดีย์จะมีที่ฝากรองเท้าด้วย (ขูดรีดชาวต่างชาติมาก คิด 1,000 จ๊าดเป็นค่าฝาก แต่ผมมีถุงเอารองเท้าใส่ถุงใส่กระเป๋าก็ไม่ต้องโดนโก่งราคาเหมือนเพื่อน) ระหว่างทางขึ้นไปที่เจดีย์ชเวดากองนั้นจะมีของขายเป็นของฝาก ของบูชามากมายให้เลือก คาดว่าหลายๆร้านจะมีสินค้าเหมือนกันหมดเลย
เมื่อเดินขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็มีเจ้าหน้าที่พาเราไปซื้อตั๋วเข้าชม เจ้าหน้าที่สุภาพมากและดูเป็นผู้ดีมากๆ ชาวต่างชาติเสียค่าธรรมเนียม 8 USD หรือ 8,000 จ๊าด บริเวณรอบๆนั้นจะมีไกด์บริการให้ซึ่งไกด์แต่ละท่านก็จะมีความชำนาญด้านภาษาที่แตกต่างกันไป หาต้องการใช้ไกด์ก็สามารถตกลงราคากันได้ ทริปนี้ขอเดินชมด้วยตัวเอง นอกจากจะมีไกด์ที่อยู่บริเวณจุดขายตั๋ว ยังมีไกด์อิสระเดินไปเล่าไปแล้วก็มีชวนคุยสอบถามเราว่ามีไกด์พาเที่ยวรอบเมืองไหม ไปพระธาตุอินแขวนแล้วรึยัง ซึ่งจุดมุ่งหมายก็คือจะอาสาพานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมพม่า ผมยอมรับว่าไกด์เหล่านี้พูดภาษาไทยได้เปะมากหากใครต้องการหาไกด์แนะนำให้ลองคุยได้ครับ 

ผมถึงเจดีย์ชเวดากองช่วงเวลา 5 โมงกว่าช่วงนั้นฟ้ายังไม่มืดมาก แต่น่าเสียดายที่เจดีย์นั้นกำลังบูรณะแต่ความสวยงามนั้นก็ยังคงสวยงามเช่นกัน ผมลองดูโปรแกรมทัวร์พม่าช่วงนี้เจดีย์ชเวดากองโดนตัดออกหมดเลย เสียดายมากๆ แต่ผมมาแล้วก็ต้องมาให้ถึงครับ ภายในเจดีย์ชเวดากองนั้นคือบริเวณเจดีย์มสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้สามารถบูชา กราบไหว้ได้ตลอด

สี่มุมของเจดีย์จะมีองค์พระให้สักการะ แต่ละจุดดูขลังน่าศรัทธามากมาถึงแล้วควรกราบไว้ให้ครบก่อน องค์พระที่เจดีย์ชเวดากองนั้นไม่ได้ดูกันที่ความใหญ่ครับ แต่ละองค์ล้วนมีประวัติความเป็นมาทั้งหมด
บริเวณรอบๆเจดีย์จะมีพระประจำวันเกิดด้วย ตามความเชื่อให้สรงน้ำพระประจำวันเกิดตัวเองให้ได้อายุตัวเองบวกด้วยหนึ่ง ดังนั้นบางคนสรงน้ำนานมา พอตาผมก็ใช้เวลานานเหมือนกัน(ฮา) ไปถึงแล้วอย่าลืมไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตัวเองด้วยนะครับ

หลังจาพที่ฟ้ามืดแล้วเจดีย์ชเวดากองก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แสงสีทองก็สว่างไสวสวยงามมากจริงทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงดึงดูดผู้คนมากมายได้ขนาดนี้ ผมเดินอย่ในเจดีย์ชเวดากองใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง จริงๆแล้วอยากเดินอยู่ในนี้ต่อ แต่เพื่อนๆเริ่มหิวกันแล้วก็ขออำลาเจดีย์ชเวดากองก่อน

Bakery ณ พม่า
ตลอดเวลาสามวันนั้นผมและเพื่อนๆทานแต่อาหารท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง วันนี้ได้เข้าสู฿่กลางเมืองย่างกุ้ง ตอนออกจากที่พักมองเห็นร้านโดนัทก็เลยอยากจะเข้าไปทานลิ้มลองโดนัทพม่าว่าเป็นอย่างไร ชื่อร้าน Donut king
ภายนอกร้านถือว่าดูดีมากครับ คาดว่าจะคล้ายกับ mister donut บ้านเรา เพื่อนในทริปมีพี่ท่านหนึ่งชื่นชอบด้านเบเกอรี่มากจึงให้พี่เค้าเลือกเพื่อที่จะลองชิม ตอนนั้นเห็นทุกอย่างอยากกินหมดเลยจึงสั่งกันหลากหลายมาก
รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นอาหารมื้อเย็นของวันนี้ครับ โดยรวมแล้วรสชาติมาตรฐานแต่ไม่หวานมาก มีสิ่งที่แปลกคือโดนัทราดช๊อกโกและสอดไส้สังขยาใบเตย ฟังดูแล้วไม่เข้ากันแต่รสชาติก็พอได้ครับ 
นอกจากโดนัทแล้วยังมีน้ำด้วย ผมสั่งเป็นน้ำอะโวคาโดปั่นมา อร่อยมากชอบจริงๆ มาถึงพม่าหาทานให้ได้แม้จะไม่เย็นจัดแต่รสชาติอร่อยกลมกล่อมดีครับ
หลังจากอิ่มกันแล้วก็เดินกลับเห็นร้านนำแข็งใส ตอนแรกก็ลังเลเพราะเริ่มอิ่มแล้วแต่ครั้งหนึ่งที่มาพม่าก็ขอมาลองทาน ซึ่งราคาก็แพงเอาการเหมือนกัน ผมลองสั่งน้ำแข็งใสโดยดูจากรูปจะคล้ายๆ กับวุ้นในน้ำแข็งสีแดงแต่พอสั่งมาแล้ว หน้าตาไม่เหมือนกัน เครื่องจัดเต็มมากไม่ว่าจะลูกชิด สาคู วุ้นมะพร้าว เม็ดแมงลัก ทับทิมกรอบ มีใส่ไอศรีมด้วย เติมความหวานเต็มที่เลยกินกับเพื่อนไม่หมดจาน

ร้านสะดวกซื้อที่พม่า
เท่าที่เดินทางในพม่าแทบจะไม่ค่อยเห็นร้านสะดวกซื้อ มีเป็นร้าน abc supermaket กับ go & grab ซึ่งเข้าไปแล้วก็มีอาหารของแห้งมากมายไม่แพ้ร้าน seven eleven เลยครับ ผมได้ของมาดังภาพด้านล่าง (เบียร์กับขนมปังของเพื่อนครับ) ณ ตอนนี้ยังกองไว้อยู่ที่บ้านเลยยังไม่ได้กิน เพราะตอนนั้นอิ่มมาก

กลับที่พัก
วันนี้กลับถึงที่พักแล้วค่อนข้างเหนื่อยมากก็ได้ไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอน
ส่วนเพื่อนมีไปต่อไปผับต่อ

วันสุดท้ายท่องเที่ยวในย่างกุ้ง จุดท่องเที่ยวที่น่าไป Click 

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)