บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2010

ความคิด | รถเมล์ที่ไม่ใช่แค่การเดินทาง

รูปภาพ
การเดินทางในชีวิตประจำวันของคนบางคนอาจจะมีหนทางที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่เป้าหมายเดียวกันแต่เส้นทางก็แตกต่างกันได้ อย่างเรื่องนี้ผมขอเขียนถึงเรื่องรถเมล์ รถที่ไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสารเลย แม้บางครั้งจะขับฉวัดเฉวียง และน่าตื่นเต้นบ้าง แต่ผมก็ยังคงที่จะขึ้น ผมยังจำได้เลยว่าผมขึ้นรถเมล์ทั้งแต่ 3.50 บาท ซึ่งเมื่อผ่านไปแค่ 1 ปี วิกฤตน้ำมันก็เริ่มทำให้ค่าโดยสารขึ้น จนกระทั่ง 8-10 บาท แต่หากคำนวณแล้วก็ยังถูกว่าการขับรถไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง การขึ้นรถเมล์นั้นเราจะต้องดูว่ารถเมล์นั้นสายอะไร แต่ความจริงแล้วแค่นั้นไม่พอ เพราะเราจะต้องดูว่าเป็นรถเล็กรึเปล่า, เสริมรึเปล่า, รถปรับอากาศรึเปล่า ซึ่งมันเป็นความแปลกอย่างนึงว่า สายเดียวกันแต่ถ้าเสริมหรือคันเล็ก เราก็อาจจะไปไม่ีถึงที่ๆ เราต้องการ คำสอนของรถเมล์ รถเมล์นั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรมากกว่าแค่การเดินทาง ยังเป็นคน สอนให้คนรู้จักตัวเอง มากขึ้น เพราะบางครั้งเวลาที่รอนั้นใช้เวลานาน คนก็จะเริ่มมองโน้นมองนี่ จนเบื่อและสุดท้ายก็จะกลับมาดูตัวเอง สอนให้คนรู้จักอดทน แน่นอนว่าไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับเวลาของรถเมล์ที่จะมา เมื่อรอไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้ว่าเราต้องอด

ความคิด | ค. คน นักสร้าง

คนสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์การแลกเปลี่ยน . . . เงิน คนสร้างสิ่งต่างๆ ให้คนรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญมีหน้ามีตาในสังคม . . . อำนาจ คนสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อความสดวกสบาย . . . เทคโนโลยี คนสร้างกฏเกณฑ์เพื่อควบคุมสิ่งต่างๆ . . . กฏเกณฑ์ต่างๆ คนสร้างเครื่องมือให้ชีวิตมีความยืนยาว . . . การแพทย์ คนสร้างรายการอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย . . . อาหาร เห็นมั้ยครับว่าคนสร้างทุกอย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรม หรือนามธรรม คนเราสร้างสิ่งต่างๆมากมายเพื่อเป็นประโยชน์ ซึ่งไม่เหมือนกับสัตว์ ปัญหาของสัตว์นั้น มีเพียงสองอย่าง คือ ความอยู่รอดทางชีวิต และการเอาตัวรอด แม้คนจะโชคดีที่ไม่มีใครจะมาเอาชีวิตเรา แต่บางครั้งสิ่งต่างๆ ที่คนสร้าง กลับสร้างปัญหาให้กับคน สัตว์ และโลกใบนี้ เงิน . . . หากบริหารไม่ถูกต้องตามที่ควร คนก็จะก่อหนี้ และอาจเป็นปัญหาต่อคนอื่น และบางครั้งเพื่อเงิน คนบางคนก็ทำทุกอย่างเพื่อเงิน จนกระทั้งยอมทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร สร้างปัญหาต่างๆ ให้กับคนในสังคม อำนาจ . . .  เรื่องของความต้องการทางสังคม เพื่อการยอมรับ เพื่อการอำนวยความสดวก จนบางครั้งคนหลายๆ คนยอมหันหลังให้

มังสวิรัติ | ความเชื่อเกี่ยวกับมังสวิรัติ

รูปภาพ
บทความนี้ ผมเขียนเกี่ยวกับความเชื่อ ซึ่งเป็นเพียงสิ่งที่ผมเจอเองนะครับ ไม่ได้มีการนำความรู้ทางวิชาการมาแต่อย่างไร เพราะหลายๆ อย่างจะมีคนกล่าวๆกับผมเสมอว่าถ้าเราทานมังสวิรัติแล้วจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ครับ วันนี้ผมก็เลยอยากจะเล่าสิ่งที่ผมเจอมากับตัวเองว่าจริงไม่จริงยังไงครับ ความเชื่อที่ 1 ทานมังสวิรัติแล้วจะหิวเร็ว จริงอยู่ว่าเรากินแล้วมันก็ต้องหิว แต่เค้าบอกว่าจะหิวเร็วซึ่งผมว่ามันจะก็ีมีส่วนที่จริงและไม่จริงครับ ซึ่งสำหรับผมแล้ว -ถ้าเรากินแต่ผักเราก็จะหิวเร็ว -ถ้าเรามีข้าว เต้าหู้แล้วผมว่าก็ไม่ได้ทำให้เราหิวเร็วหรอก อาจจะเกิดจากการคิดไปเองครับ ความเชื่อที่ 2 ทานมังสวิรัติแล้วตัวซีด อันนี้ผมอาจจะไม่สามารถบอกได้ แต่สำหรับคนรอบข้างผมแล้วบอกว่าตัวเหลืองและซีดลงครับจริงๆ ครับแต่ผมก็ยังไม่เห็นข้อเสียอะไรมาก เพราะสิ่งที่ผมได้คือความผ่องใส และจากหน้าผมที่เคยมีสิวอักเสบ(มากมาย) ก็เริ่มลดลง จนคนรอบข้างสังเกตได้ ความเชื่อที่ 3 เมื่อทานมังสวิรัติแล้วพอได้กลิ่นเนื้อสัตว์จะรับไม่ได้ อันนี้อาจจะขึ้นกับบุคคลครับ แต่สำหรับผมแล้วเวลาได้กลิ่นเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้ง ไก่ทอด แหนม กุ้

มังสวิรัติ | ตั้งเป้าหมาย

รูปภาพ
ผมเชื่อว่าการทำอะไรก็แล้วแต่หากเราไม่ตั้งเป้าหมายในช่วงแรกนั้นเราอาจจะมีโอกาสที่จะไม่ได้ทำในสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน งาน ที่บ้าน หรือแม้แต่การทานอาหารมังสวิรัติ การตั้งเป้าหมายจริงๆแล้วอาจจะมีหลายแบบ ซึ่งก็ไม่มีแบบไหนที่ตายตัวแต่สำหรับผมแล้วผมเชื่อว่าเป้าหมายแบบที่ผมตั้งนั้นคงจะไม่ยากจนเกินไป เริ่มต้น ชอบกินผักรึเปล่า ?? สำรวจตัวเองก่อนครับว่าปัจจุบันคุณเป็นคนทานผักมั้ย ซึ่งถ้าหากว่าชอบนั้นก็ถือว่าเริ่มต้นที่ค่อนข้างง่าย แต่ถ้าหากคุณไม่ชอบทานละก็ ผมขอแนะนำครับว่าให้หัดลองทานผักที่คุณไม่ชอบทาน โดยเริ่มต้นลองหารายละเอียดดูครับว่า ผักชนิดนั้นให้ประโยชน์อะไรบ้าง และเมื่อคุณรู้ถึงประโยชน์แล้วก็ลองสั่งมาทานดูครับ แรกๆแน่นอนว่าอาจจะไม่ถูกปากครับ แต่กินไปเรื่อยๆ บ่อยคุณก็จะชินได้เองครับ วิธีนี้ผมเป็นคนคิดขึ้นมาเองครับ โดยจะ ต้องพยายามนึกถึงประโยชน์ของมันเข้าไว้แล้วเราก็จะอยากกิน และกินจนกลายเป็นนิัสัยเองครับ ชอบกินเต้าหู้รึเปล่า?? ทำไมต้องเต้าหู้เพราะ โปรตีนของชาวมังสวิรัตินั้นจะมาจากถั่วและเมล็ดธัญพืชเป็นส่วนใหญ่ ในประเทศไทยนั้นเราก็ไม่ค่อยที่จะมีเมล็ดธัญพืช ขายกันมากมา

ความคิด | คนเราปลูกฝังอะไรมา

รูปภาพ
ผมยังจำได้ว่าสมัยผมยังเด็กๆ ผมอยากจะเป็น หมอ โดยผมไม่รู้ว่าหมอทำหน้าที่อะไร เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน หรือจะรับภาระหนักแค่ไหน ผมมีความคิดเพียงอย่างเดียว นั้นคือเป็นหมอ แล้วจะรวย และีอีกความฝันอีกอย่างนึงก็คือ เป็น นักธุรกิจ จะได้ประสบความสำเร็จมีเงินมากมายและก็สุขสบาย นั้นเป็นสิ่งที่เด็กคนนึงคิดได้เอง หรือถูกปลูกฝังขึ้นมาโดยสิ่งรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคนที่บ้าน หรือสังคมก็ตาม แต่เมื่อผมโตขึ้นแล้วทำงาน ผมกลับพบว่าการทำงานนั้นสังคมคนทำงานก็ถูกปลูกฝังอีกสิ่งนึงขึ้นมาก็คือ การมีอำนาจ การทำให้คนรอบข้างยอมรับเรา และยอมอยู่ข้างเรา โดยบางครั้งเราก็กลับลืมไปว่าหน้าที่เราคือทำงานให้สำเร็จ และสองสิ่งนี้เองที่ทำให้คนหลายๆ คนเปลี่ยนไป จากที่เคย ทำงานเพื่อทำงาน แต่กลับ ทำงานเพื่อเงินและอำนาจ และแม้ตัวเองจะมีเท่าไหร่ก็รู้สึกกลับต้องการมากขึ้นเท่านั้น คนที่ำไม่เคยพอทำอะไรเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ ต้องแสวงหาไปเรื่อยๆ จนกระทั้งวาระสุดท้าย เราจะยอมมีชีวิตเพื่อแค่นี้จริงหรือ "คนเราถูกปลูกฝัง เพื่อสรรหา และครอบครอง จนลืมปลูกฝังคำว่า พอเพียง คนเลยต้องทำทุกอย่าง เพื่อครอบครองบางอย

ประสบการณ์ | ผ่าฟันคุด( Impacted Wisdom tooth )

รูปภาพ
ก่อนอื่นเรื่องฝ่าฟันคุดที่ผมเขียนนี้ไม่ใช่หลักการวิชาการ แต่ผมเชื่อว่าต้องมีใครบางคนที่อาจจะมีโอกาสที่จะได้ผ่า หรือใครบางคนที่ยังไม่ได้ผ่าและกำลังหาข้อมูลว่าคนที่ไปผ่านั้นเจออะไรมาบ้าง ผมก็เลยจะมาขอเล่าการผ่าฟันคุดของผมครับ การนัดหมอ    มีคนบอกครับว่าเวลาเรานัดหมอ ถ้าหากมีหมอประจำก็ไม่ต้องพูดถึงเลยก็นัดคนเดิม แต่ถ้าหากว่าเราไม่มีหมอประจำ หลายๆ คนส่วนใหญ่จะบอกว่า ให้ผ่าฟันคุดกับหมอผู้ชาย เพราะว่าเวลาหมอดึงจะดึงครั้งเดียวไม่เจ็บ แต่ผมอยากแนะนำว่าถ้าที่ศุนย์ทันตกรรมนั้นมีหมอหลายคนก็ลองสอบถามดูว่าคนไหนเก่งครับ แล้วจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงผมว่าพอฉีดยาชาแล้วก็ไม่เจ็บครับ ที่สำคัญนะครับเวลานัดหมอถ้าเป็นไปได้ควรจะนัดต่อเย็นนะครับแต่ถ้าไม่สะดวกทำตอนเย็นก็แล้วแต่เรา การเตรียมตัว   อย่างที่ผมบอกแล้วว่าควรนัดหมอตอนเย็นเพราะหลังจาผ่าฟันคุดแล้วเราจะกินไม่ได้จนถึงอีกวันนึงครับซึ่งแน่นอนว่าเ ราก็ต้องกินให้อิ่ม และ แปรงฟันให้สะอาดเลย ครับ เพราะทำเสร็จแล้วเราจะแปรงไม่สะดวก แล้วค่อยไปให้คุณหมอผ่าครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมว่าก็ไม่น่าจะมีแล้วนะครับ ความเจ็บ จากที่ผมไปผ่ามาผมว่าจะมีเจ็บ

อบรม |ไปอบรมกับ John Robert Powers ที่โรงแรมอมารีแอร์พอร์ต

รูปภาพ
ณ วันที่ 14/05/2010 ผมออกจากบ้าน 6 โมงเช้า เพื่อไปขึ้นรถเมล์สายที่ไปถึงดอนเมือง แต่ปรากฎว่าไม่มีรถเมล์สักคัน เลยเปลี่ยนใจไปขึ้นรถไฟฟ้า แต่ปรากฎว่ารถไฟฟ้าวิ่งไปถึงแค่ช่องนนทรีเท่านั้น เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี  ตัดสินใจนั่ง Taxi ไปที่โรงแรมอมารีแอร์พอร์ต ถึงที่โรงแรม 6.45 น. คาดว่าจะไปถึงคนแรก หมดค่า taxi ไป  258 บาท ผมก็ไปนั่งรอที่ ล๊อปปี้ที่โรงแรม จนกระทั่ง 8.00 น. ก็เดินไปที่ห้องอบรมจะลงทะเบียนก็ไม่พบชื่อผมอีก แต่ทาง HR เค้าจำได้ เลยได้ก็ลงทะเบียน ได้เก้าอี้แถวหลังสุดเลย ( ตามที่ผมดาวไว้ ) ซึ่งรอสักพักคนก็เริ่มเข้ามา และผมก็ได้รู้จักพี่คนนึงกับเพื่อนสาวสวยอีกคนนึงเพิ่มขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 8.15 น. อาจารย์ประณม ภาวรเวช ก็เริ่มสอนโดยอาจารย์จัด Section เป็นการเดินทางรอบโลก เริ่มแรกที่ออสเตรียก่อน อาจารย์ก็มีขึ้นรูปนักจิตวิทยาคนนึง ( ผมจำชื่อไม่ได้ ) แล้วก็มีรูปคนทั้ง 8 คนแล้วให้เราทายว่าแต่ละคนนั้นทำงานอะไร ซึ่งก็ทายถูกบ้างผิดบ้าง ตามด้วยลักษณะเด่นขององค์ก่อนว่า องค์กรแต่ละองค์กรเป็นอย่างไร อย่างเช่น บริษัทประกันภัย – Guardian, Pond – Love/beauty และการอ่านคนจะต้องดูที่ สี

หลาน | ของเล่นของหลานผมครับ

รูปภาพ
รูปตัวจริงของหนูค่ะ

ความคิด | ลมหายใจที่เหลือ

รูปภาพ
ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างมีข้อจำกัดของตัวมัน เช่นเดียวกับชีวิตของเรา สักวันนึงเราก็ต้องจากโลกนี้ไป ไม่มีอะไรที่จะยืนยาวได้ตลอดไป ดังนั้นทุกคนก็ย่อมที่จะใช้เวลาอย่างมีคุณค่า แต่จะมีคนกลุ่มนึงที่สามารถใช้เวลาที่มีชีวิตอยู่ที่มีคุณค่าได้มากที่สุด ก็คือ คนที่รู้ว่าตัวเองนั้นมีชีวิตเหลืออีกกี่วัน คนเหล่านั้นอาจจะต้องประสบความทุกข์ทางจิตใจอย่างหนัก ที่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตได้กี่ปี กี่เดือน กี่วัน หรือกี่นาที แต่คนเหล่านั้นก็จะได้ทราบโอกาสว่าตัวเองนั้นควรจะทำอะไรที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับชีวิตของเขา บางคนรวมแม้แต่ผมยังคงชอบคิดว่าโอกาสจะมีใหม่ทุกๆ วันที่ผมตื่นขึ้นมา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมานั้นเป็นสัญญาณเตือนเราว่าเราเหลือเวลาของเราน้อยลงทุกๆ วัน บางคนก็หยุด ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ไม่มีคุณค่าที่แท้จริง หรือ บางคนก็มุ่งไปหาจุดหมายของชีวิตโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่มีอยู่รอบข้าง ไม่มีใครสามารถที่จะตัดสินใจแทนคนอื่นว่าอะไรคือคุณค่าที่แท้จริงของแต่ละคน แต่หากเรายังมัวหลงระเริงว่าเรามีโอกาสอีกมากมาย เราก็อาจจะพลาดโอกาสทำสิ่งที่ควรจะทำ แม้ว่าวันนี้พวกเราอาจจะไม่รู้ว่าลมหา

ความคิด | ดอกไม้ของคุณเป็นอะไรได้บ้าง

รูปภาพ
ดอกไม้ ในทุ่งหญ้า หรือในร้านดอกไม้ต่างๆ ที่ผู้คนมองเห็นหลายคนต่างมองเห็นตรงกันว่ามันสวย และบางคนก็อยากได้ และก็พยายามที่จะเด็ด หรือ ซื้อจากร้านดอกไม้ แต่เมื่อนำกลับมาบ้าน บางครั้งก็พบว่ามันไม่สวยงามเหมือนอยู่ที่ร้าน ซึ่งจริงๆแล้วดอกไม้ก็ยังคงเป็นดอกไม้ดอกเดียวกับที่เราต้องการ หลายๆ คนยังคงที่มองหาดอกไม้ใหม่ อยู่ตลอดเวลา และไม่เคยพอใจกับดอกไม้ที่ได้มา จนกระทั้งเวลาผ่านพ้นไปจนพบว่า ดอกไม้ที่สรรหาอยู่นั้น ยังไงก็ไม่มีทางที่จะครอบครองมันได้หมด บางคนจึงได้เลิกค้นหาและครอบครองดอกไม้ดอกใหม่ สุดท้ายเมื่อกลับมามองดอกไม้ที่ได้มาครอบครอง กลับพบว่าดอกไม้ที่มีอยู่นั้นเหี่ยวเฉา และไม่สามารถกลับมางดงามได้ดังเดิมอีก แม้ดอกไม้ทุกๆดอกจะมีทางเหี่ยวเฉา เมื่อเวลาที่เรามีโอกาสเราก็ควรที่จะดูแลดอกไม้นั้นให้ดีที่สุด วันนี้หยุดตามหาดอกไม้ใหม่ๆ กลับมาดูแลในสิ่งที่เรามีดีกว่านะครับ แล้วคุณล่ะ ดอกไม้ของคุณเป็นอะไรได้บ้าง บิ๊ก