ความคิด | รถเมล์ที่ไม่ใช่แค่การเดินทาง

การเดินทางในชีวิตประจำวันของคนบางคนอาจจะมีหนทางที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่เป้าหมายเดียวกันแต่เส้นทางก็แตกต่างกันได้ อย่างเรื่องนี้ผมขอเขียนถึงเรื่องรถเมล์ รถที่ไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสารเลย แม้บางครั้งจะขับฉวัดเฉวียง และน่าตื่นเต้นบ้าง แต่ผมก็ยังคงที่จะขึ้น

ผมยังจำได้เลยว่าผมขึ้นรถเมล์ทั้งแต่ 3.50 บาท ซึ่งเมื่อผ่านไปแค่ 1 ปี วิกฤตน้ำมันก็เริ่มทำให้ค่าโดยสารขึ้น จนกระทั่ง 8-10 บาท แต่หากคำนวณแล้วก็ยังถูกว่าการขับรถไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง

การขึ้นรถเมล์นั้นเราจะต้องดูว่ารถเมล์นั้นสายอะไร แต่ความจริงแล้วแค่นั้นไม่พอ เพราะเราจะต้องดูว่าเป็นรถเล็กรึเปล่า, เสริมรึเปล่า, รถปรับอากาศรึเปล่า ซึ่งมันเป็นความแปลกอย่างนึงว่า สายเดียวกันแต่ถ้าเสริมหรือคันเล็ก เราก็อาจจะไปไม่ีถึงที่ๆ เราต้องการ

คำสอนของรถเมล์
รถเมล์นั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรมากกว่าแค่การเดินทาง ยังเป็นคนสอนให้คนรู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะบางครั้งเวลาที่รอนั้นใช้เวลานาน คนก็จะเริ่มมองโน้นมองนี่ จนเบื่อและสุดท้ายก็จะกลับมาดูตัวเอง สอนให้คนรู้จักอดทน แน่นอนว่าไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับเวลาของรถเมล์ที่จะมา เมื่อรอไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้ว่าเราต้องอดทนมากขึ้น สอนให้รู้จักการวางแผนเรื่องเวลา ถ้าหากสังเกตให้ดีว่าเวลานัดอะไรก็ตาม คนที่จะมาถึงก่อนก็คือคนที่เดินทางด้วยรถเมล์ เพราะเค้าจะคาดเวลาล่วงหน้าได้เลย หรือไม่อีกแบบนึงก็คือสายสุดๆ สอนให้รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ หากเมื่อเวลาเรารอรถเมล์แล้วเมื่อมีเวลาว่างเราก็จะหยิบอะไรขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา สอนให้คนรู้จักการพูดคุยกับคนแปลกหน้า การเดินทางบางครั้งอาจใช้เวลาไม่มากแต่การเจอกับผู้คนที่ขึ้นรถเมล์ด้วยกันทุกวันนั้น ก็ทำให้คนที่ไม่รู้จักกันคุยกันได้ หรือบางครั้งรอรถเมล์นาน แล้วอยากจะไป Taxi ก็จะช่วยให้เราไม่ต้องออกตังคนเดียวหมด สอนให้คนรู้จักเป็นความเท่าเทียมกัน จริงอยู่บางครั้งการศึกษาทำให้คนมีความแตกต่างกันบาง แต่เมื่อขึ้นรถเมล์แล้วจะใหญ่โตมาจากไหน เราก็ไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งได้ตามอำเภอใจ และตลอดทางรถเมล์ก็ยังคงรับผู้โดยสารขึ้น เห็นรึเปล่าครับว่าแค่รถเมล์นั้นก็มีอะไรแฝงอยู่มากมาย นอกจากรถเมล์จะช่วยสอนแล้วรถเมล์ยังเป็นตัวอย่างที่ช่วยให้ลดโลกร้อนได้ เพราะถ้าผู้ที่ขึ้นรถเมล์หันมาขับรถกันหมด ควันก็คงจะเต็มถนนกันแน่ๆ เลย และอีกอย่างนึงก็คือคนหลายคนชอบบ่นว่ารถติดทุกๆ เย็น ถ้าลองคิดดูดีๆแล้ว ก็เกิดจากรถส่วนตัวที่กลับบ้านพร้อมๆกัน เลยทำให้รถติด ดังนั้นรถเมล์ยังช่วยให้รถไม่ติดได้ด้วย

ความเสี่ยง
ไม่มีอะไรที่จะดีที่สุดอย่างเดียว มันก็อาจจะมีจุดไม่ดีบ้างแต่เราก็ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องรู้จักความเสี่ยงและต้องระวัง รถเมล์แม้จะเป็นรถสาธรณะที่ควรจะมีความปลอดภัยสูง แต่บางคันก็ขับได้น่าใจหายใจคว่ำได้เช่นเดียวกัน เราก็ควรเลือกดีๆ แต่ถ้าขึ้นไปแล้วจ่ายตังแล้ว คิดว่ายังสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ก็ควรจะหาตำแหน่งที่นั่งที่ปลอดภัย หรือถ้าคิดว่านั่งไม่ปลอดภัยก็ยืนในจุดที่ความเสี่ยงน้อยก็ได้ เรื่องความสะอาด เนื่องจากรถเมล์แต่ละคันจะมีคนขึ้นลงมากมาย โดยเราก็ไม่ทราบมากว่าตรงนั้นมีจุดแหล่งเชื้อโรคที่จะทำให้เราป่วยรึเปล่า ถ้าเราจะเอาแอลกอฮอล์ไป เช็ด มันก็คงจะทำเกินไป แต่เราก็เลือกดูสภาพที่นั่ง หรือสภาพคนข้างๆที่นั่งก็ได้ ถ้าคิดว่าไม่แน่ใจ การยืนจับราวก็เป็นอีกทางนึงที่จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงได้ แต่ผมเชื่อว่าการขึ้นรถเมล์่บ่อยๆ ร่างกายเราจะปรับตัวสร้างภูมิบางอย่างขึ้นมา แต่ถ้าเจอโรคร้ายๆ ก็ไม่แน่เหมือนกัน

รถเมล์ทำให้คนหุ่นดี
หัวข้อนี้อาจจะแปลก แต่ผมสังเกตได้จากเพื่อนๆผมที่มีรถ เมื่อใช้ไปหลายๆ ปี ร่างกายจะเริ่มท้วมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้่น ผิดกับคนที่ขึ้นรถเมล์ที่จะต้องนั่งตากแดดตากลมบ้าง ห้อยโหนบนราวรถเมล์ สิ่งเหล่านี้แม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้หุ่นดีได้ แต่ถ้านั่งแต่ปอ. แล้วนั่งเคี้ยวขนมอบกรอบทุกวัน รถเมล์ก็คงจะไม่มีผลทำให้หุ่นดี

เมื่อเห็นว่ารถเมล์มีข้อดีแล้ว จะใช้บริการบ้างก็ได้นะครับ
ไม่ได้ค่านายหน้าอะไรทั้งสิ้นแต่ก็ช่วยให้โลกร้อนได้ช้าลงครับ

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)