face2cu

วันวาเลนไทน์ปี 2014 ปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชาทางบริษัทจึงจัดทริปธรรมสัญจร ซึ่งก็ไปปฏิบัติที่วัดที่เดิมที่ผมเคยไป แต่การเดินทางครั้งนี้ได้มีตารางแวะชมดอกไม้ก่อนด้วย ซึ่งความที่เป็นคนกรุงเทพ บ้านตึกแถวเลยทำให้มีความรู้ด้านต้นไม้ ดอกไม้น้อยมาก และไม่เคยรู้เลยว่ามันสวยงามอย่างไร ทำไมคนถึงชอบไปดูกัน สถานที่แรกที่ไปก็คือ ดาษดาแกลอรี่ Dasada Gallery ค่าเข้าชม 200 บาทครับ (เค้าบอกมา) ด้วยความร้อนของอากาศแว๊บแรกที่ลงมาถึงก็ต้องกางร่ม แล้วก็กางแผนที่เพื่อที่จะเดินไปในส่วนที่เป็น indoor หรือส่วนที่มีห้องแอร์ครับ ในสถานที่แห่งนี้จะมีแหล่งที่ซื้อของฝากด้วยครับ ซึ่งราคาก็ไม่ใช่ย่อยๆ เลยครับ ภายในห้องกระจกแห่งนี้ ผมจะเห็นเครื่องดนตรีซึ่งปกคลุมด้วยดอกไม้นานาพันธ์ุ อย่าถามผมว่าเป็นดอกอะไรนะครับ เพราะผมแยกได้แค่ดอกกุหลาบ กับดอกหน้าวัวครับ ใครที่ชอบถ่ายรูป อาจจะต้องแวะอยู่นานหน่อย เพราะว่ามุมเยอะมากๆ และวันที่ผมไปนั้นเป็นวันแห่งความรัก แต่ละคนก็มากันเป็นคู่ๆ เราก็ต้องหลีกทางให้เค้าหน่อยเพราะว่าเป็นวันของเค้าเนอะ ที่สวนห้องแอร์ตรงนี้จะมีห้องลับ ไม่ใช่!! เป็นห้องมืดๆ ให้เข้าไปดูกุ้งดาษดาด้วย

สำหรับใครก็ตามที่กำลังใช้ Xperia C คงจะได้รับแจ้งจาก Update center ให้ทำการ Up firmware เพื่อให้เครื่องนั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น(รึเปล่า) ซึ่งไม่ได้เป็นการ Up เป็น Kitkat ครับ ผมก็ไปหาข้อมูลมาก่อนที่จะ up ครับ ซึ่งก็สรุปการปรับปรุงครั้งนี้ได้ตามนี้ครับ 1. แก้ไข Widget ให้สามารถใช้งานได้ (ปกติ install แล้ว widget ไม่มีให้ใช้) 2. ทุกครั้งที่ Restart เครื่อง Shortcut ของ App ใน SD Card จะหายหมดเลย หาก Update แล้ว Restart จะไม่หาย 3. คุณภาพของรูปภาพดีขึ้น  4. Ram ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 5. %ของ แบตเตอร์รี่ไม่รวน (ปกติ พอ 30 % แล้วมักจะ Drop ลงเหลือ 12 % เลย ผมก็พึ่งรู้ว่าก็เป็นปัญหาที่ควรแก้เหมือนกัน) 6. UI ของเครื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลง (อดเลย) ซึ่งอ่านมาแล้วก็ดูท่าทางเข้าท่าดีนะที่จะ Update แต่พอไปอ่าน Comment ถึงกับตกใจว่าเครื่องมีเส้นฟ้าปรากฎ เปิดไม่ติด กล้อง Preview ไม่ได้ ข้อมูลหาย และต่างๆ มากมาย และก็ยังมีคนชมว่าดีขึ้นหน่อย ก็ทำผมคิดลังเล ว่าจะเอายังไงดี เพราะว่าก็อยาก up เหมือนกัน อยากลองดู สุดท้าย ก็ลองกด up ผ่าน Wifi ซึ่งระบบก็ไม่ให้ครับ ต้อง Update ผ

หากได้ยินคำว่า Jim Thomson สมัยก่อนผมมักจะนึกถึงผ้าไหมตลอด เพราะได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังว่า เจ้าของเป็นฝรั่งที่สนใจเรื่องผ้าไหมและขายผ้าไหมที่สวยงามมากมาย แต่แล้วอยู่ๆ เจ้าของก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นี่คือประวัติที่แม่ผมเล่าให้ฟัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกต้องรึเปล่าครับ แต่แล้ววันนึงพี่สาวผมก็ชวนที่บ้านไปที่ Jim Thomson Farm ซึ่งตอนแรกก็จินตนาการไว้ว่าคงต้องเป็นอะไรที่ดูหรูหรา Hi-So แน่ๆ  วันที่ 25 มกราคม 2557 ออกเดินทางไปวังน้ำเขียว ครับ ขับรถจากกทม ประมาณ สามชั่วโมง กว่าๆ  เมื่อไปถึงสิ่งแรกที่เห็นคือ ที่นี่มีต้นไม้สูงเหมือนกับในหนังเกาหลี ซึ่งมาช่วงที่กำลังหนาวด้วยเลยทำให้บรรยากาศนั้นนึกถึงตอนไปเกาหลีเลยครับ สิ่งแรกที่เห็นก็คือเต้นท์ครับ ซึ่งคุณแม่เห็นแล้วถึงกับอึ้งเล็กน้อย เพราะมองว่าลำบากแน่ๆ ผมรู้สึกว่าผมกลับไปเป็นเด็กมัธยมอีกครั้ง มาเข้าค่ายอีกครั้ง ครั้งนี้พาหลานมาเที่ยวทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยครับ ซึ่งที่นี้เค้าเรียกกันว่า Jim Thomson Learning Camp ครับ ของต้อนรับชิ้นแรกคือ น้ำฟักทองและซาลาเปา ซึ่งตอนนั้นก็หิวแล้วก็รีบทานก่อนเลยครับ จากนั้นก็รอให้ผู้ปกครองท่านอื่นๆ มาจน