Touching Myanmar Life Day 3

วันที่ 5 ธันวาคม 2557 ออกเดินทางขึ้นเขา ณ ไจ๊โถในวันพ่อแห่งชาติ
ผมตื่นนอนแต่เช้าออกเดินเล่นรอบๆที่พักแล้วพบว่าไม่มีอะไรเลย จึงกลับห้องแล้วอาบน้ำเตรียมทานข้าว จากนั้นเรียกเพื่อนๆก็ทยอยตื่น เช้านี้ต้องออกจากโรงแรม 8 โมงเพื่อไปขึ้นรถทัวร์ อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นแบบเรียบง่ายมาก
เป็นอาหารเช้าแบบบริการตัวเองที่แปลกที่สุด มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ทานด้วย ส่วนขนมปังก็ใช้เครื่องปิ้งแบบใช้งานที่ตามบ้าน ขนมปังพม่านั้นแป้งค่อนข้างบาง เมื่อปิ้งแล้วจะกรอบทันที ซึ่งแตกต่างจากขนมปันในประเทศไทย
ผมชงซีเรียลธัญพืชทานควบคู่ด้วย ช่วยให้มื้อเช้าอร่อยมากขึ้น จากนั้นพนักงานก็เสริฟไข่ดาวที่มีความเค็มผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากสูตรที่คนพม่าทำ หรือเกิดจากกระทะที่ใช้ทอดนั้นมีความเค็มอยู่แล้ว แต่โดยรวมแล้วรสชาติแปลกทานได้โดยไม่ตรงปรุงเพิ่ม จากนั้นพวกเราออกเดินทางจากที่พักตอน 7.50 น.
เมื่อมาถึงที่สถานที่ขนส่งรถ รถทัวร์ก็มาถึง เหล่าพี่หม่องตะโกนเรียกพวกเราขึ้นทันที ต้องบอกว่าสิ่งที่พี่หม่องพูดครั้งนี้ถูกต้องคือจองที่นั่งจากย่างกุ้งจะได้มีที่นั่ง มีแม่ชีคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่ที่เราจองพี่หม่องจัดการย้ายที่ให้แม่ชีไปนั่งด้านหลังทันที ส่วนเราก็ได้นั่งรถด้านหน้าตามที่จองไว้ หากใครที่วางแผนเที่ยวแบบผมคือพักที่บาโกก็จองตั้งแต่ย่างกุ้งก็ดีหน่อย ไม่ต้องนั่งตรงกลางหรือยืนครับ

จากบาโกสู่ไจ๊โถ
ไจ๊โถหรือไจ๊ทิโย ที่ผมเรียกสองแบบเพราะชาวพม่าพูดทั้งสองแบบ  ไจ๊โถเปรียบเสมือนจังหวัดหนึ่งของพม่า ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมกำลังจะไปขอเรียกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์เลยก็ว่าได้ หากใครได้มาเที่ยวที่ย่างกุ้งแล้วสามารถเดินทางมาเที่ยวที่ไจ๊โถได้ โดยใช้เวลาในการเดินทาง

  • ย่างกุ้งไปบาโก 2 ชั่วโมง
  • บาโกไปไจ๊โถ 3 ชั่วโมง
  • ย่างกุ้งไปไจ๊โถ  5 ชั่วโมง

ระหว่างทางที่นั่งรถไปเรื่อยๆ เส้นทางจะออกสู่ทุ่งนา และมีภูเขารายล้อม ตลอดทางไม่มีการแวะพักอย่างใดดังนั้นใครกระเพาะปัสสาวะทำงานบ่อยงดน้ำก่อนเดินทางจะดีที่สุด

ถึงแล้วค่ายคินปุนแคมป์
นักท่องเที่ยวและชาวพม่าที่นั่งรถทัวร์มานั้นจะต้องมาถึงค่ายคินปุนแคมป์ก่อนซึ่งจะใช้ต่อรถขนหมูขึ้นไปบนเขา เมื่อผมลงจากรถแล้วพนักงาน Win Express ก็น่ารักมาก แนะนำให้เราซื้อตั๋วขากลับทันที ผมเคยอ่านหนังสือบอกว่าไม่ควรจอง เพราะขาลงนั้นเรากะเวลาไม่ได้เลย หากจองแล้วลงมาขึ้นรถไม่ทันจะเสียเงินฟรี ด้วยความรู้เยอะจึงบอกกับคนขายตั๋วว่ากลัวลงมาไม่ทัน เธอก็บอกว่าเธอสามารถเปลี่ยนตั๋วได้นะ โดยรถจะมีตอน 8,10,12 โมง จึงได้จองไปที่ 10 โมง หากไปที่ Win express ลองถามหนา Yu Yu Win ได้เธอน่ารักพูดคุยอังกฤษคล่องเลย

บริเวณรอบๆจะมีร้านอาหาร ของฝากให้เลือกซื้อมากมายด้วยความไม่รีบจึงเดินเล่นก่อน เพราะหากขึ้นไปแล้วจะลงมาก็อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ขอแนะนำเลย หากใครมาเที่ยวพระธาตุอินทร์แขวนแล้วขอให้จองที่พักไว้ด้านบน แม้จะแพงแต่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะคุ้มค่าจริงๆ ถ้าต้องลงมาด้านล่างพักแล้วจะเสียดายมาก


ประสบการณ์ขึ้นรถขนหมู
ผมขึ้นรถขนหมูตอนเที่ยงๆ รถดูแข็งแรงมาก ผู้คนน้อยในเวลาเที่ยงๆผมเห็นอยู่สองคัน จึงได้ลงไปนั่งเพื่อรอรถออก แถวหนึ่งจะต้องนั่งได้ 6 คนค่อนข้างเบียดนั่งได้ทั้งหมดเจ็ดแถว หากใครสัมภาระเยอะก็สามารถนำกระเป๋าไปไว้ด้านหลังได้ จากข้อมูลที่อ่านมานั้น หากรถคันไหนส่งนักท่องเที่ยวจะส่งไม่ถึงด้านบน ต้องเดินหรือต้องนั่งเสลียงอีกสองกิโลเมตร แต่ผมขึ้นรถคันเดียวกับชาวพม่าจึงถูกส่งขึ้นไปยังด้านบนไม่ต้องเดินไกล ระหว่างรอรถออกเหลือบเป็นเห็นสามสาวพม่า เรียบร้อยน่ารัก จึงได้ลองถามว่าจ่ายเงินรึยัง แล้วราคาเท่าไหร่ สุดท้ายเธอบอกว่า 2500 จ๊าด เราจึงเตรียมเงินให้พร้อม


ก่อนรถจะออกจะมีคนมาขายธูปเทียนและหมวก ซึ่งหากใครไม่ได้เตรียมพร้อมมาก็ซื้อกันได้ ส่วนรถที่ผมนั่งมีฝรั่งสาวสองคนขึ้นมาโดย เธอรู้ราคาและเหมือนกำลังจะโดนคนเก็บตั๋วโก่งราคา เธอจึงตะโกนว่า five thousand for two people เสียงดังมาก ชาวพม่ามองกันใหญ่เลย ทำให้นักท่องเที่ยวไทยอีกสองคนไหวตัวทัน ทวงเงินจากคนเก็บตั๋ว(รู้สึกเก็บชาวไทยไป สามพันจ๊าด ซึ่งมากับไกด์ด้วยนะ ไกด์ก็ไม่พูดอะไรด้วย คงรู้เห็นเป็นใจ) โชคดีผมรู้ราคาเตรียมไว้พอดี คนเก็บตั๋วมาถึงยื่นเลย

แรงศรัทธาระหว่างทาง
ระหว่างทางจะมีการขายน้ำ ขายขนมและเรี่ยไรเงิน ซึ่งผมเดาว่าเป็นการบริจาคทำทางขึ้นเขาแน่ๆ เพราะเส้นทางเป็นปูนดูแข็งแรงมากครับ ชาวพม่าก็นิยมทำบุญกันตลอดทาง ทางขึ้นบางช่วงก็เสียวหากนั่งด้านข้างจะรู้สึกได้เป็นพิเศษ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงยอดเขาแล้ว อากาศด้านบนลมแรงทำให้เย็นสบาย ยิ่งขึ้นสูงบรรยากาศรอบข้างจะสวยงามมาก อยู่ทามกลางป่าเขา สวยจริงๆ ผมสังเกตเห็นบางช่วงมีคนเดินด้วย จึงเดาว่าอาจจะมีคนเดินขึ้นแน่ๆ ระหว่างทางมักจะมีบ้านคนสร้างไว้ด้วย โดยส่วนมากจะขายน้ำ ขายขนม แต่บางหลังผมมองว่าไม่ควรสร้าง เพราะอยู่ตรงกับทางลง หากรถไหลลงมาแบรกไม่อยู่นี้พุ่งเข้าบ้านเลย

สัมผัสแรกบนเทือกเขาไจ๊ทิโย
เมื่อลงจากรถขนหมูแล้ว ผู้คนมากมายลงจากรถค่อนข้างจะวุ่นวาย มีคนหาบเสรี่ยงเรียกลูกค้า คนหาบสัมภาระต่างตั้งใจเข้ามาช่วย แต่สำหรับเราแล้วขอเดินเอง ระยะทางตรงนี้ไม่ไกลเลย ใกล้มาก โชคดีที่นั่งแฝงมากับชาวพม่าถึงด้านบนโดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยมาก
ลอดช่องพม่า
อาหารชนิดนี้ผมเห็นในหนังสือแนะนำให้ลองทาน จึงตื่นเต้นและรีบสั่งมาทาน ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณ 200 จ๊าด มีน้ำให้เลือกว่าจะเป็นน้ำเชื่อมหวาน หรือน้ำกะทิ ผมเลือกน้ำกะทิ รสชาติของลอดช่องแปลก ไม่หวานไม่หอมน้ำกะทิเลย แถมไม่เย็นด้วย  แต่ก็อร่อยแบบจืดๆ ถ้ามาแล้วลองทานกันได้

ระหว่างทางเดินจะเห็น poster รูปผู้หญิงสาวแสนสวยหน้าเหมือนดารานางเอกเกาหลียกมือไหว้กับพระธาตุอินทร์แขวน เป็นเอกลักษณ์มาก มีร้านขาย DVD เยอะมากเลย หาซื้อได้ลองถามราคาดูก่อนซื้อนะครับ

ที่พักสำหรับต่างด้าวบนพระธาตุอินแขวน
เริ่มแรกนั้นผมไม่ได้ตั้งใจที่จะพักบนเขา แต่หลายๆคนบอกว่ามาแล้วก็ไม่ควรจะพลาด จึงได้พยายามหาที่พัก มีอยู่สามโรงแรมซึ่งสามารถให้คนต่างด้าวแบบผมพักได้
  • Kyaikhto Hotel 
  • Mountain Top Hotel
  • Yoe Yoe Lay Hotel
ผมจองผ่าน agoda จะปลอดภัยที่สุด ผมเคยติดต่อผ่านตัวแทนทัวร์ในพม่าแต่ต้องโอนเงินก่อน แม้จะแพงแต่ก็ควรจอง และต้องวางแผนดีๆ ด้วยที่พักเต็มเร็วมาก ผมได้ที่พักอยู่ที่ Kyaikhto Hotel ซึ่งแนะนำให้จองผ่าน Agoda จะสะดวกที่สุด ชมที่พัก จองที่พัก


หลังจากที่เก็บของเข้าที่พักแล้วก็พวกเราก็เดินทางไปชมพระธาตุอินแขวนรอบแรกเลย ตามความเชื่อแล้วในครั้งหนึ่งในชีวิตควรจะชมพระธาตุอินแขวนสามรอบ สำหรับผมแล้วการเดินไปมาก็ขอนับเลยละกัน บริเวณทางเข้านั้นหากเป็นชาวต่างชาติจะต้องเสียค่าเข้า 6 US แต่ช่วงที่ผมไปไม่เจอเจ้าหน้าที่เลย

ความพิเศษของพระธาตุอินทร์แขวน
ผมมีเวลาอยู่ที่พระธาตุอินทร์แขวนทั้งคืน ดังนั้นตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นเวลาที่อิสระมาก การได้มาเห็นพระธาตุอินทร์แขวนนั้นเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้หน้าผาแต่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้โดยไม่ล้ม

บริเวณแถวพระธาตุสามารถเข้าไปนั่งชมได้ นั่งสมาธิ สวดมนต์ได้ เรียกได้ว่าสะดวกที่ไหนทำได้ ชาวพม่าใจดีจะเดินหลบให้เองครับ องค์พระธาตุนั้นจะมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย ผู้คนโดยเฉพาะต่างชาติมักจะมีกล้องมือโปรไปถ่ายรูปชื่นชมความสวยกัน
ขอถ่ายรูปมุมหนึ่งให้เห็นถึงองค์พระธาตุว่ามีจุดที่สัมผัสหน้าผาอยู่น้อยมาก อัศจรรรย์มาก จุดที่เข้าไปสัมผัสองค์พระธาตุได้จะให้ผู้ชายเข้าไปได้เท่านั้นครับ หากท่านผู้หญิงมาก็ต้องฝากผู้ชายเข้าไปแปะแผ่นทอง
ปัจจุบันก่อนเข้าองค์พระธาตุนั้นจะต้องไม่มีการพกเครื่องมือสื่อสาร กล้องถ่ายรูป ทางเข้าจะมีเครื่อง scan ก่อนเข้า ดังนั้นหากไปคนเดียวอาจจะลำบาก แต่ถ้าไปกับเพื่อนๆ ก็ฝากเพื่อนไว้ก่อน จากนั้นก็สามารถเดินเข้าไปแล้ว จะกราบไว้ สัมผัส องค์พระธาตุ ปิดทองก็ทำได้อิสระ บริเวณทางเข้าจะมีที่นั่งให้สามารถนั่งกราบไหว้ได้ด้วย สาเหตุที่ห้ามนำกล้องเข้าไปนั้น ผมเดาว่าจะทำให้คนอยู่ข้างในนาน เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ทำให้ผู้คนไม่ยอมออกมา และอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ขนาดไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ผู้คนล้านแปดมาก ต้องต่อแถวเลยครับ
นอกจากการมององค์พระธาตุจากด้านข้างแล้ว ยังมีด้านล่างให้สามารถเดินลงมาชมได้ เรียกว่าชมได้รอบพระธาตุเลย ช่วงบ่ายคนค่อนข้างน้อยอาจจะเพราะแดดที่กำลังแรงอยู่ แต่แรงศรัทธานั้นมั่นคงกว่าครับ

หลังจากชมองค์พระธาตุแล้วบนพระธาตุยังมีเส้นทางเดินให้เดินเล่นได้  เส้นทางแรกที่ผมเดินจะผ่านโรงแรม Yoe Yoe Lay บริเวณแถวนี้จะมีคนพม่าคอยขายของตามเส้นทาง เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของฝาก ยาโด๊ป อาหารทอดต่างๆ หากเดินไปจนสุดจะอยู่ใต้พระธาตุครับ ซึ่งผมลงไปไม่สุด เหนื่อยก่อน
ครั้งแรกของขนมจีนพม่า (โมฮีนกา)
ระหว่างทางเดินนั้นผมเหลือบไปเห็นร้านอาหารพม่า แม่ลูกกำลังกินขนมจีนอยู่ ซึ่งก็เป็นอาหารแนะนำอีกเหมือนกัน จึงได้ลองไปถามคนขายว่าอาหารนี้ราคาเท่าไหร่ ซึ่งราคาอยู่ที่ 500 จ๊าด จึงได้ลองสั่งมาทานเลย เมื่ออาหารมาก็มีเสริฟกับเครื่องเคียงเป็นผักชี ถั่วฝักยาว ถั่วทอด และลูกชิ้นหั่นฝอย รสชาติของโมฮีนกานั้น ไม่เผ็ด ออกมัน หอมเครื่องเทศอ่อน เค็มอ่อนๆ สำหรับผมแล้วถือว่าอร่อยทานได้ หลังจากทานเสร็จแล้วไปชำระเงินกับแม่ค้าอีกท่าน บอกว่าราคา 1,000 จ๊าด จึงได้แย้งว่าน้องสาวคุณบอกแค่ 500 เอง จึงเรียกน้องสาวออกมา สรุปจ่ายไป 500 จ๊าดครับ

ส่วนเพื่อนๆ ผมทานอีกร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านคล้ายข้าวแกง ทุกคนเริ่มชินกับการกินแบบนี้

เส้นทางพิเศษกราบไว้พระในหิน ณ ไจ๊โถ
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งที่เห็นแล้วน่าเดินลงไปชม อยู่ทางแยกซ้ายมือก่อนถึงองค์พระธาตุ หากมีเวลาควรลงไปชมครับ

เส้นทางยังไม่ดีมาก ส่วนใหญ่สังเกตุได้ว่าที่พักจะเป็นของพระสงฆ์บางช่วงชันเล็กน้อย ระหว่างทางเดินทำให้นึกถึงเส้นทางบนภูกระดึงเลย

ความพิเศษของเส้นทางนี้จะมีหินก้อนใหญ่ ซึ่งด้านบนมีการสร้างเจดีย์ไว้หลายองค์ ด้านล่างจะเป็นทางเข้าไปในตัวหินครับ  ปากทางเข้าเล็กมาก แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็พบกับพระพุทธรูป และเทพของชาวพม่า ให้ได้สักการะได้ เรียกได้ว่าคุ้มที่ได้เดินลงมาชมครับ ส่วนใหญ่สถานที่แห่งนี้คนไม่ค่อยมากัน หลังจากชมเสร็จแล้วก็ต้องเดินกลับขึ้นไปด้านบน ผมและเพื่อนเดินขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้วเหนื่อยแฮกเลย ต้องนั่งพักกันสักสิบนาทีเลย

คนพม่าที่องค์พระธาตุอินทร์แขวน
ช่วงที่ผมมานั้นเป็นช่วงวันพระใหญ่ ดังนั้นคนพม่าจะขึ้นมากเยอะมาก ลานที่กว้างๆ แคบลงทันตา แต่ละคนมีอุปกรณ์จองพื้นที่สำหรับนอน กลางลานเลย แต่ก็มีจุดพักสำหรับชาวพม่ารูปด้านบนซ้ายมือ เป็นสถานที่ดูเล็ก แต่เมื่อมองลงไปแล้วด้านล่างกว้างมากครับ แต่มีป้ายให้เฉพาะคนพม่าเท่านั้นที่อยู่ได้ ต่างด้าวอย่างผมต้องไปพักที่โรงแรมเท่านั้น
ทางเลี้ยวขวาเส้นทางชาวพม่า
ระหว่างอยู่ที่พระธาตุอินทร์แขวน ด้านขาวมือจะมีเส้นทางที่สามารถเดินได้ เมื่อเดินลงมาแล้วจะเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายที่มีสาวพม่าแสนสวยคอยเรียกลูกค้า โดยส่วนใหญ่แล้วจะพูดเรียกแต่คนพม่า คนต่างชาติมักไม่ค่อยมาเดินถนนเส้นนี้กัน ผมได้แต่ยิ้มให้สาวพม่าแล้วเดินผ่าน แต่สาวพม่าก็มักจะทักผมว่า "Are you Japan ? " พอผมบอกว่าผมคนไทยเท่านั้นล่ะ สาวพม่ายิ้มหวานก็พูดว่าสวัสดีครับ เล่นเอาจนเคลิ้มต้องพาเพื่อนๆ มาทานเลย แต่ก่อนจะไปเรียกเพื่อนยังมีทางเดินเล่นต่อ


เส้นสุดทางนี้ยังมีพระธาตุด้วย แต่หากเดินไปสุดทางแล้ว แนะนำให้เตรียมเศษเงินให้มาก เพราะโซนนี้จะเน้นเรื่องบริจาคมาก ทั้งพูดคุย ดึงรั้นมาก หากรู้ว่าเราเป็นคนไทยแล้วก็ยังมีล่ามมาช่วยแปลด้วย หากไม่บริจาคแล้วคงจะเดินทางต่อไปได้ยากจริงๆ มีการเดินตามให้บริจาคด้วย


ขนมข้างทาง
ระหว่างทางเดินเห็นป้าคนหนึ่งกำลังทำขนมซึ่งดูหน้าตาแล้วน่าทาน เป็นแป้งแผ่นบางๆ มีน้ำตาลทาทั่วแผ่น โรยมะพร้าวดูหน้าตาแปลกตาสำหรับผม ได้สอบถามราคา 400 จ๊าด จึงชี้ไปที่ขนมแล้วชูหนึ่งนิ้ว วางเงินแล้วรอแก ซักพักด้วยความเร็วในการบรรจุใส่แพ็คเกจ ก็ถึงกับตกใจมาก
สิ่งที่พันอยู่รอบขนมที่ผมต้องการทานเป็นหนังสือพิมพ์ครับ ชาวพม่าคงจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ในการบรรจุอาหารเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ หนังสือพิมพ์ที่พม่าอาจจะเป็น Green Product ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ได้ ทานไปคงไม่เป็นอันตรายหรอกคิดเข้าข้างตัวเอง ผมรีบแกะห่อหนังสือพิมพ์แล้วทานเลย รสชาติอร่อยแป้งกรอบอร่อย คล้ายๆกับขนมถังแตกแบบแป้งกรอบ รสชาติไม่หวานจนเกินไป อร่อยกำลังดี แต่บรรจุภัณฑ์ควรปรับปรุงครับ

หลังจากเดินเล่นคนเดียวแล้วก็กลับมาชมพระอาทิตย์ตกอีกครั้ง
บรรยากาศยามเย็นดีมาก สงบสบายผู้คนก็หลั่งไหลมาเต็มลาน และรอบๆ พระธาตุ จากนั้นผมก็รอเพื่อนซึ่งได้หลงกันแล้ว หากเดินทางมากับเพื่อนแล้วคิดจะแยกกันเดินแล้วควรนัดเวลา และจุดนัดพบไม่อย่างนั้นจะหลง เพราะบริเวณแถวนั้นคนมากยิ่งกว่างานรับปริญญาสามพระจอมอีก โทรศัพท์มือถือก็ไม่มี ต้องใช้โทรจิตอย่างเดียว ผมเดินวนหลายรอบไม่เจอจึงได้เดินกลับโรงแรมจึงได้เจอเพื่อนๆ  (เพื่อนกลับไปหาผมที่โรงแรม นึกว่าผมกลับนานแล้ว รู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้เพื่อนรอ)

กลับที่พักเติมพลังก่อน
. . . . . .
. . . .
. .

ตรงบริเวณก่อนทางเดินไปถึงพระธาตุจะมีห้องให้สามารถเข้าไปได้ ซึ่งผู้หญิงสามารถแปะทองที่พระธาตุองค์จำลองได้
อาหารมื้อเย็น
ผมพาเพื่อนกลับไปทางเลี้ยวขวาเพื่อทานอาหาร เพราะยังจำสาวสวยพม่าที่เรียกผมได้ โดยร้านอาหารที่ร้านนี้มีอาหารหลากหลาย ระหว่างทานไป สาวๆก็มาบริการดูแลเป็นพิเศษแกล้งพวกเราโดยการนำเอาน้ำตาลบีบมาให้แล้วบอกว่า เป็นช๊อกโกแลตพม่า ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ลองทาน ผมจึงได้ให้ลูกอมสาวพม่าทานซึ่งเธอบอกว่าอร่อย แล้วเธอก็ขอบคุณเพราะนึกว่าผมให้เธอหมดกล่อง ผมจึงบอกว่าให้ชิมเฉยๆ เธอหน้าแตก อายแล้วก็วิ่งเข้าไปในครัวหายไปเลยครับ รู้สึกผิดจัง

พระธาตุอินทร์แขวนยามค่ำคืน
เมื่อผมไปถึงพระธาตุอีกครั้งค่ำคืน สิ่งที่เห็นคือบรรยากาศบริเวณรอบพระธาตุเปลี่ยนไปอย่างมาก มีความงดงาม น่าเลื่อมใส มีควันธูปจากแรงศรัทธาผู้คนมากมาย
ตลอดทั้งคืนธูปและเทียนจะถูกจุดจากผู้คนตลอดเวลา ทำให้องค์พระธาตุนั้นดูศักดิ์สิทธิ์มาก หากใครที่มาแล้วต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง
บริเวณด้านล่างองค์พระธาตุในวันพระ จะมีพระสงฆ์มากราบไหว้องค์พระธาตุสวดมนต์  ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งพิเศษสำหรับผมมากครับ มีพุทธศาสนิกชนหลายท่านนั่งสมาธิด้วย แม้ผู้คนจะมากแต่การสร้างกุศลของแต่ละคนนั้นก็สามารถทำตามกำลังเราได้ สำหรับผมได้มีโอกาสนั่งสมาธิที่ด้านหน้าเป็นองค์พระธาตุแล้วรู้สึกได้ถึงการเข้าสู่สมาธิได้ดีเป็นพิเศษ


ในยามค่ำคืนหากได้แปะทองแล้วจะสร้างความตื่นตาได้มาก ต้องต่อแถวเข้า หากพักบนเขาแล้ว แปะทองตอนกลางคืนจะได้บรรกาศการสัมผัสองค์พระธาตุที่ทองอร่ามคุ้มค่ามาก

เมื่อเดินเต็มอิ่มแล้วก็กลับห้องพักเพื่อวันพรุ่งนี้ครับ

ภาพสุดท้ายจากที่พักมองไปยังองค์พระธาตุ เช้าวันรุ่งขึ้นพบกันอีกครั้งครับ


face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)