วัดหลวงพ่อโอภาสี - Make merit by releasing fish

การทำความดีมีหลายแบบผมก็จะขอทำความดีอีกครั้งผ่านตัวหนังสือใน face2cu

บทความนี้ผมตั้งใจที่จะทำให้เพื่อนรู้สึกน้อมรับถึงกุศลที่ผมพี่สาวรวมถึงคุณพ่อที่ได้ทำความดีแม้อาจจะไม่ได้เป็นกุศลมากมายแต่เจตนาเพียบพร้อมครับ

พี่สาวผมวางแผนที่จะไปปล่อยปลาที่วัดแถวบ้าน ที่ วัดหลวงพ่อโอภาสี สาเหตุที่เลือกวัดแห่งนี้เพราะดูแล้วที่นี้มีบริเวณให้ปล่อยปลา น้ำไม่เสีย และเป็นน้ำนิ่ง ซึ่งเหมาะกับปลาไหลที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำนิ่ง
ผมเดินทางไปที่ตลาดวงเวียนใหญ่ซึ่งที่นี้มีร้านค้าของสดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ สัตว์บก แบบยังมีชีวิตอยู่ ที่ร้านที่ผมไปนี้มีสัตว์น้ำมากมายไม่ว่าจะ ปลาหมอ ปลาบู่ ปลาไหล ปู ตะพาบ กบ ค่อนข้างเยอะ ทางร้านขายให้คนไปทำกิน หรือไปทำบุญก็ได้

ผมรู้สึกได้ว่าการซื้อแบบนี้จะเป็นการช่วยชีวิตจริง เพราะสัตว์เหล่านี้หากผมไม่ได้มาซื้อมาปล่อย ก็อาจจะมีคนที่ตั้งใจจะซื้อไปสัตว์เหล่านี้ไปทาน และทางร้านก็ยินดีตั้งใจเลือกให้ด้วย

ผมซื้อปลาไหล 10 ตัว และปลาหมอ 10 ตัว  ผมเคยซื้อแล้วปล่อยที่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่เมื่อได้ไปฟังรายการนึงนำเสนอเรื่องการปล่อยปลาทำให้รู้ว่าปลาบางชนิดไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำเชี่ยวได้ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปลาไหล ผมเลยหาสถานที่ปล่อยปลา ซึ่งก็พบว่าที่วัดหลวงพ่อโอภาสีมีเขตปล่อยปลา

ดังนั้นหลังจากซื้อปลาแล้วก็เดินทางจากวงเวียนใหญ่ไปที่ถนนพระรามสองเข้าซอยวัดพุทธบูชา
ถึงวัดแล้วครับ ปลาเหล่านี้เตรียมกลับลงแหล่งน้ำและไม่ต้องถูกจับอีก พี่สาว คุณพ่อ ผมขอสวดมนต์อธิฐานแล้วปล่อยปลาลงน้ำครับ (คุณพ่อกับคุณพี่ปล่อยปลา แรงเหมือนกัน ไม่ยอมก้มลงไปต่ำหน่อย)

ลองไปชมกิจกรรมกันครับ (Clip พิเศษเลยนะ)

เมื่อความตั้งใจเรียบร้อยแล้วผมจึงขอถ่ายรูปบริเวณวัดมาให้ชมกันดีกว่าครับ เผื่อใครที่ยังไม่เคยมา ลองหาโอกาสมาครับ


ด้านหน้าทางเข้ามีสองทางครับทางนี้ดูภายนอกจะออกเหมือนศาลเจ้าจีนแต่มีความเป็นไทยผสมอยู่
เมื่อเดินเข้าไปแล้วพบว่า เราจะต้องถอดรองเท้า เพราะที่วัดจะไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าบริเวณตัววัดซึ่งทำให้ผมคิดถึงประเทศพม่าซึ่งภายในวัดห้ามใส่รองเท้า

มีศาลโป๊ยเซียนให้ได้กราบไหว้ด้วยศาลดูไม่ใหญ่มาก เมื่อเข้ามาภายในศาลจะมีเสียงดนตรีจีนเบาๆ ทำให้เราได้รับพลังความสงบได้เต็มที่
บริเวณข้างเคียงเป็นศาลพระเจ้าตาก เดินเข้าไปแล้วรู้สึกหึกเฮิมขึ้นมาทันที
ที่วัดนี้จะมีเจดีย์ใหญ่อยู่ตรงกลางซึ่งด้านข้างๆ จะมีสระน้ำมีปลามากมาย แต่ไม่สามารถปล่อยปลาบริเวณนี้ได้ เพราะว่าเป็นบ่อน้ำปิด เดี๋ยวปลาจะมีจำนวนมากเกิน การเดินเข้าชมเจดีย์อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปได้นะครับ ผมรู้สึกได้ว่าคล้ายกับประเทศพม่าเลยที่มีบางจุดให้เฉพาะผู้ชายเข้าได้เท่านั้น

จุดบริเวณนี้จะมีองค์พระทันใจ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องบินไปถึงพม่ามาที่วัดโอภาสีแทนก็ได้ ตั้งใจสวดมนต์ขอพรจากท่านเลย จะได้พรทันใจ
จุดต่อไปคือองค์พระนอนซึ่งเป็นองค์พระที่ใหญ่ที่สุดในวัดครับ ผมลองชมแล้วดูคล้ายๆกับพระพุทธรูปของพม่าครับ เดี๋ยวต้องรอผมไปพม่าก่อนจะได้รู้ว่าเหมือนกันมากไหม
องค์พระองค์ต่อไปคือ พระสังขจายแต่ใบหน้าแตกต่างออกไปจากที่เคยเห็นครับ จุดบริเวณนี้เหมือนจะพึ่งสร้างครับปกติที่เคยมายังไม่เห็น หรือมีแต่ผมไม่ได้เดินมาชม ทางเดินค่อนข้างร้อนเนื่องจากไม่ได้ใส่รองเท้าและไม่ค่อยมที่ร่มให้เดิน

มีรอยพุทธบาทให้บริจาคเงินได้ด้วย ดูซิครับมีผู้คนศรัทธามากมาย
พระประจำวันเกิดขาดไม่ได้เช่นกันใครเกิดวันไหนทำบุญตามกำลัง หรืออยากทำเพิ่มก็สามารถสร้างบารมีได้ ที่วัดแห่งนี้แม้ว่าจะอยู่กลางแจ้งมีหลังคาสังกะสีแค่ชั้นเดียว แต่ไม่รู้สึกร้อนเลยลมเย็มสบาย สงบน่าเดินจริงๆ
ผมเดินรอบวัดก็พบกับรูปปั้นรูปหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าเรียกว่ารูปปั้นอะไรครับ ดูคล้ายจะเป็นผีมากกว่าเทพครับใครพอรู้ช่วยแจ้งด้วยนะครับ ว่าคือรูปปั้นอะไร
ระหว่างทางเดินออกจากวัดครับ ได้เห็นวิวที่สวยงามบนความสงบในทุกๆก้าวแนะนำให้ลองไปดูครับมีศาลศาลาให้ชม สักการะมากมาย
จุดสุดท้ายก่อนกลับเป็นเหมือนเก๋งจีน แต่มีพระพุทธรูปประทับอยู่ใจกลางแทน

บทความนี้ผมไม่ค่อยมีเรื่องราวจะเขียนมากนัก และไม่ค่อยทราบประวัติความเป็นมาดังนั้นเน้นรูปภาพเป็นส่วนใหญ่

สุดท้ายนี้บุญนอกจากการทำบุญแล้วการรักษาศีลการปฏิบัติธรรมถือว่าเป็นบุญที่สุดยอดเช่นกันนะครับ


face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)