Kidzania โลกใบเล็กของเด็กน้อย

สวัสดีสำหรับบทความแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่(สำหรับผม) ซึ่งไม่ได้เคยคิดว่าจะได้ไป เพราะว่าอายุก็เกินมากแล้ว แต่งานนี้หลานผมไม่มีคนดูแลและพี่สาวผมก็นัดกับผู้ปกครองคนอื่นแล้ว ก็เลยอาสาที่จะพาหลานจอมยุ่งของผมไปเที่ยวแทน

Kidzania อยู่ที่ห้างพารากอนที่สยามครับ ความคิดแรกที่ผมคิด(ดูจากรูปที่พี่ที่ออฟฟิตเคยถ่าย) นึกว่าเป็นแบบฐานๆ ให้เด็กๆเดินเข้าไป แล้วผู้ปกครองก็นั่งรอ แต่เมื่อไปถึงกลับรู้สึกว่านี่มันเหมือนสวนสนุกสำหรับเด็กเลยนะ มิน่าละหลานผมถึงพูดถึงตลอด

ที่นี่สำหรับเด็กเล็ก จะต้องมีผู้ใหญ่เข้าด้วยเสมอ(ไม่งั้นเดี๋ยวเด็กหลงครับ) ค่าบัตรสำหรับเด็ก 850 บาท ผู้ใหญ่ 480 บาท ซึ่งนับว่าราคาแพงเอาเรื่องสำหรับผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ไม่สามารถเข้าไปเล่นอะไรได้เลย ราคาหน้า Web แต่หากใครตั้งใจจะไปลองเข้าไปใน web ดูเผื่อมี Promotion ครับ

Promotion ของผมเป็น บัตรคู่(ผู้ใหญ่ + เด็ก)ราคาอยู่ที่ 1050 บาท (ประหยัดไป 280 บาท) และซื้อให้คุณแม่ของผมใช้ตั๋ว Seven Eleven ลดได้ 20 % ครับ 

งานนี้ผมไปฟรีหมดเพราะพี่สาวเป็นสปอนเซอร์ใจดีครับ

เมื่อซื้อบัตรแล้วจะมีการสวมสายรัดข้อมือคล้ายๆนาฬิกาครับ ซึ่งด้านในจะมี Chip กันเด็กหนี ไม่ใช่ เอาไว้ยิงเก็บข้อมูลแต่ละฐานครับ สายรัดนี้จะไม่สามารถแกะเองได้ต้องใช้เครื่องเท่านั้นครับ เมื่อใส่สายรัดของมือแล้วก็เริ่มเข้าสู่ Kidzania กันเลยดีกว่า

ด้านทางเข้าจะทำแบบสนามบินเลยครับ เป็นการเปิดฉากที่งดงามเลยทีเดียว เมื่อเข้าไปด้านในโลกก็เปลี่ยนไป ข้างในค่อนข้างใหญ่ แรกๆดูแล้วงง แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปขึ้นเงินจาก Bank CIMB THAI
ในธนาคารแห่งนี้จะเป็นธนาคารของโลกจำลองใช้สกุลเงินคิดโซ (ออกเสียงแล้วคิดถึงเกาหลี) ซึ่งการเข้าฐานต่างๆ จะมีทั้งการใช้เงินและการหาเงินครับ เริ่มต้นเด็กทุกคนจะมีเงิน 50 คิดโซครับ หลานผมรีบเดินเข้าไปแลกเงิน แล้วก็นำมาให้ผม เธอไม่รู้หรอกว่ามูลค่าเท่าไหร่ เดี๋ยวอากู๋อย่างผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้แทน

หลังจากได้เงินแล้ว ก็เดินขึ้นไปชั้นสองก่อน เพราะว่าเพื่อนๆ หลานอยู่ชั้นสองครับ จุดแรกที่เข้าคือการผลิตน้ำอัดลม(CocaCola) ผมจะไม่ค่อยชอบทานน้ำชนิดนี้ นอกจากน้ำตาลเยอะแล้ว ยังมีแก๊สอีก จริงๆ แล้วไม่ค่อยอยากให้ทำเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆหลานจะเข้า หลานก็เลยเข้าตามครับ ที่นี่ใช้ไป 10 คิดโซ จากนั้นก็ไปผลิตนมที่ Meji
ที่ Meji เค้าสอนทำนมครับ มีหลายรสให้เลือกด้วยขั้นตอนดูสะอาด ในการทำจะต้องทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าไปทำนมครับ หลังจากหลานได้นมแล้วก็เอาออกมาโชว์ แล้วก็กินเลย
 หลังจากที่พลัดหลงจากเพื่อนๆ ผมเลยจับหลานไปหาเงินก่อนครับ จะได้มีเงินไปเล่นกิจกรรมอื่น ห้องต่อไปคือ นักออกแบบ ซึ่งไม่มีใครมาเล่น หลานผมเข้าไปแบบงงๆ ได้เข้าไปปูเตียง จัดห้อง แล้วก็ออกมา
 เมื่อจัดห้องแล้วจุดต่อไปคือห้องมายากล ซึ่งหลานเข้าไปได้ แต่ผู้ปกครองเข้าไปไม่ได้และมองไม่เห็น ซึ่งเมื่อเด็กๆออกมา ถามเท่าไหร่ก็ไม่มีใครบอกว่าในห้องนั้นมีอะไรบ้าง

เวลาผ่านไปสองชั่วโมงเที่ยงพอดี เริ่มหิวแล้ว ผมไม่รอช้ารีบพาหลานมาทำแฮมเบอร์เกอร์ที่แมคโดนัล
 แม้กระบวนการทำจะไม่ยาก แต่สำหรับเด็กๆ คงจะตื่นตาตื่นใจกันครับ ทำเสร็จได้แฮมเบอร์เกอร์กินด้วย แบบนี้ก็ไม่ต้องเสียตัง เป็นไปได้อยากให้หลานทำอีกสองชิ้น จะได้ให้อากู๋กับอาม่ากิน

ระหว่างรอหลานทำแฮมเบอร์เกอร์ ผมกับคุณแม่ผมก็ซื้อแฮมเบอร์เกอร์จากแมคโดนัลกินกัน แม้ว่าจะแพงกว่าด้านนอกแต่ก็ต้องทานครับ เพื่อคล่องตัวเวลาหลานออกมา
 ซื้อแฮมเบอร์เกอร์สองชั้นแบ่งกับคุณแม่ และเมื่อหลานทำแฮมเบอร์เกอร์แล้วก็ออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ แล้วก็ไปเป็นแอร์โฮสเตสที่ Air Asia
 จุดนี้เองผู้ปกครองอดขึ้น เลยไม่รู้ว่าเด็กๆ ทำอะไร แต่งตัวอย่างไร แต่มีคูปองจากตากล้องให้ไปซื้อได้ครับ ใบละ(แค่) 450 บาท ผมคิดว่าแพงมากเลยนะ แต่เค้าคงจะคิดถึงจุดคุ้มทุนด้วย เลยได้ราคาแบบนี้ครับ ใครชอบก็จับจ่ายซื้อกันได้
 กิจกรรมดับเพลิงนี้ พลาดไม่ได้ครับ สนุกแม้แต่ผู้ใหญ่ก็สนุกครับ เด็กจะได้รับการอบรม(นิดหน่อย) ที่เหลือก็มีตากล้องมาถ่ายรูป จากนั้นก็ขึ้นรถดับเพลิง แล้วก็ไปช่วยกันดับไฟ ทำดีครับ ไหม้ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงเลย เด็กก็สนุกสนานตามกัน
 จุดต่อไปใกล้ๆตัวเราครับ คือไปเป็นพนักงานที่ Seven eleven น้องๆ จะได้รู้จักเครื่องยิง Barcode และด้านในก็มีขนมให้เลือกหยิบเต็มไปหมด มีโจทย์ให้เด็กๆ ช่วยกันหาสินค้าด้วย
ที่นี่มีการแสดงที่โรงละคร โดยคนที่แสดงก็คือเด็กที่มาเที่ยวที่นี่ ใครชอบการแสดง ร้องเพลง ก็มาฝึก แล้วก็ขึ้นเวทีได้ครับ ผมใช้เวลาดูสักพัก แล้วก็พาหลานไปเดินแบบ (ดูกระแดะเนอะ)
 ภายในห้องจะมีห้องแต่งตัว มีเสื้อผ้าแบบต่างๆ ซึ่งจะมีคนพาเด็กๆไปแต่งตัวแล้วก็ปัดแก้มเล็กน้อย
แต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปเดินแบบ จริงๆ แล้วก็คือการไปถ่ายรูปนั้นเอง แต่เราจะโชคดีที่เจ้าหน้าที่พาออกมาด้านนอก ทำให้เราถ่ายรูปหลานแบบเต็มที่ครับ ซึ่งหากเป็นเด็กผู้หญิงมากับเพื่อนแล้ว เธอจะสนุกมากๆ 
 ด้วยความที่หลานผมติดเพื่อนและเป็นเด็กผู้หญิง ที่ห้อง BSC จะมีห้องแต่งหน้าแต่งเล็บด้วย แม้ผมจะไม่ค่อยอยากให้ทาแต่หลานก็ไม่ยอม ทาจนได้ 

หากเป็นเด็กผู้ชายก็มีห้องเติมหนวดด้วยครับ จะได้ไม่น้อยหน้าเด็กผู้หญิง
หมอฟัน จุดนี้เป็นจุดนึงที่ผมมองเห็นว่าเป็นประโยชน์ครับ เลยพยายามพาหลานเข้าให้ได้ ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้ว ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะคงจะมีรายละเอียดเยอะครับ มีหุ่นจำลอง และอุปกรณ์เหมือนของจริงให้เด็กๆ ลองจับด้วย
 จุดต่อไป ผมจับหลานแยกออกมา เพราะว่าเพื่อนทำซูชิ แล้วหลานผมเองใจดีต่อคนสุดท้าย เลยโดนตัดแถว รอนานจะเสียโอกาส เลยพาหลานมาที่โรงพยาบาล ซึ่งจะมีสี่สุด คือ ห้องฉุกเฉิน(ปิด) ห้องส่องกล้อง ห้องผ่าตัด ห้องเลี้ยงเด็ก ผมให้หลานเลือกเธอเลือกส่องกล้องครับ ซึ่งเมื่อลงมาเธอก็ไม่ได้เล่าอะไร ผมคิดว่าคงจะ งงๆ เล็กน้อย
 ห้องต่อไปคือสัตวแพทย์ ตอนนั้นเวลาจะหมดแล้วเป็นห้องสุดท้ายที่ได้เข้าร่วมครับ เด็กๆ ได้แปรงขนสัตว์ ดูแล หมาแมว ครับ 

เมื่อหมดเวลาก็จะมีมาสคอตออกมาเดิน(ต้อนเด็ก)  ให้เด็กถ่ายรูป ซึ่งหลานผมก็ติดใจสนใจวิ่งไปถ่ายรูป วิ่งไปกอดตลอดเลย

จากนั้นก็กลับบ้านใช้เวลาตั้งแต่ 10 โมงถึง 5 โมงเย็น เหนื่อยมากๆ เลย

โดยสรุปแล้ว สถานที่นี่เหมาะสำหรับเด็กๆ เป็นเหมือนแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ซึ่งหากจะพาเด็กไปเที่ยวต้องใช้เวลาทั้งวัน เพราะว่าขนาดใช้เวลาตั้งแต่เปิดจนปิด ก็ยังเล่นไม่หมด ส่วนเรื่องราคาขอบอกว่าค่อนข้างแพงครับ(สำหรับผมนะ) อาจจะสถานที่ด้วยเลยแพง แต่เรื่องความปลอดภัยแล้วหายห่วงเลย เพราะว่าดูแล้วค่อนข้างรัดกุมปลอดภัยสำหรับเด็ก

ขอบคุณครับ

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)