คิว ไฮ่ หยาง ร้านอาหารจีน (Chinese Restaurant)

อาหารจีนอาหารที่ผมไม่ค่อยมีความคิดที่จะทาน เพราะตามงานแต่ง และอาหารที่บ้านจะเป็นอาหารจีนตลอด ดังนั้นลูกหลานคนจีนแบบผมจึงรู้สึกธรรมดากับอาหารจีน แต่เมื่อได้ไปเที่ยวประเทศจีนซึ่งต้องกินอาหารอยู่ที่นั้นหลายมื้อ ความเป็นจีนในตัวผมก็ทำให้ผมรู้สึกว่าอาหารจีนก็อร่อยนะ กินเบิ้ลอยู่คนเดียว ขณะที่คนอื่นกินกันไม่ค่อยได้

ร้านคิวไฮ่หยาง

มื้อนี้พี่เขยกับพี่สาวพาผมกับคุณพ่อมาทานครับ ร้านอยู่ระหว่างซอยสะแกงาม 8 กับซอย 10 ครับ ด้านหน้าจะมีป้ายดังรูปด้านบน เลี้ยวเข้าไปเลย

ทางขับรถเข้ามาจะเห็นแต่ตึกแถว ตรงลูกศรชี้อาคารสีเหลืองครับ นั้นแหละร้าน คิว ไฮ่ หยาง

ด้านหน้าร้านอาหารจะเป็นดังนี้ครับ ซึ่งดูเรียบง่าย เป็นห้องกระจกไม่ใหญ่โตมาก แต่ลูกค้ามาตลอดเวลา ผมมาทานสามครั้งมีลูกค้าไม่ต่ำกว่า 3 โต๊ะและสลับไปมาตลอดเวลา โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัว และส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนพูดภาษาจีนกันโช้งเช้ง

เมื่อเข้ามาในร้านจะพบศาลเจ้าจีนก่อน และตู้ปลาขนาดใหญ่ดูเพลินเหมือนกัน และก็จะมีคนงานคอยสอดไส้หมูใส่เต้าหู้ จริงๆแล้วน่าจะทำในห้องครัว แต่อาจจะพื้นที่ไม่เพียงพอเลยมาทำที่นี่

ร้านอาหารนี้จะมีโต๊ะใหญ่สองสามโต๊ะ และโต๊ะเล็กๆอีก 4-5 โต๊ะ ขออภัยเพราะว่าไม่ได้นับอย่างเป็นทางการ มีจานหมุนด้วยเห็นมั้ยครับ และที่นี่ใช้ตะเกียบครับ เรียกว่าเหมือนไปกินที่ประเทศจีนเลย

โฉมหน้าผู้ร่วมโต๊ะครับ คุณพ่อ คุณพี่ พี่เขย หลานจอมซน ไปดูเมนูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง

รายการอาหารดูง่าย มีราคา เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวตังไม่พอ เพราะเราคำนวณคร่าวๆ ได้เลย อยากทานอะไรสั่งได้เลยครับ ในส่วนของราคาแล้วผมว่าไม่แพงถ้าเทียบกับปริมาณ ดังนั้นมากันห้าคนก็สั่งแค่เจ็ดอย่างพอ (ถือว่าเยอะเหมือนกัน)

น้ำชาบริการชาฟรี ดังนั้นถ้าอยากกินน้ำเปล่าต้องสั่งเพิ่มครับ ซึ่งแนะนำเลยลองกินชาดูไม่แรงและก็ไม่อ่อนเกินไป ได้บรรยากาศจีนจริงๆ ซดตอนร้อนฟินเลย

จานแรกเป็ดขาวสับเนื่องด้วยเป็นคนไม่ได้ชอบกินเป็ดก็กินไปแค่ชิ้นเดียวแต่รสชาติเข้มข้นครับ น้ำจิ้มแทบไม่ต้องจิ้มเลย คุณพ่อ กับพี่เขยเลยหมดคู่แข่งไปหนึ่งคน

จานต่อไปเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูครับ ซึ่งหนึ่งจานกินได้หลายคน รสชาติต้องบอกว่าจืด แต่กลมกล่อม ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้านต้องไปร้านอื่น มาร้านนี้ต้องได้รับรสชาติจีนกลับบ้านครับเท่านั้น แรกๆผมกินแล้วเฉยๆ นะ แต่พอไปมาอร่อยดีแฮะ และพึ่งผัดใหม่ๆร้อนๆ ด้วยอร่อยจริง

ส่วนใครอยากได้น้ำจิ้มให้มีรสจัดจ้านก็ขอได้ครับ

ซึ่งดูเหมือนเผ็ดแต่ไม่เผ็ดครับ และก็ไม่เปรี้ยวมากครับ แต่ผมแทบไม่ได้จิ้มเลย เพราะเป็นคนชอบกินแบบรสชาติที่พ่อครัวปรุงมา

 จานนี้แนะนำมาต้องกินไม่งั้นมาไม่ถึงครับ(คิดเองนะ) ผัดเต้าหู้ ซึ่งเต้าหู้จะมีลักษณะเด่นคือมียัดไส้หมูเห็นมั้ยครับในรูป ผัดกับฟองเต้าหู้ กุยช่าย และเห็ดหอม จานนี้ผมโปรดเป็นพิเศษเลยกินได้เยอะเลยโดยเฉพาะฟองเต้าหู้มันทั้งนุ่ม ทั้งหอมอร่อยจริงจัง

จานต่อไปต้องเพิ่มกากใยหน่อยแล้ว ตามมาด้วยผัดปวยเล้งนิ่มๆ เค็มอ่อนๆ ก็อร่อยไปอีกแบบซึ่งที่บ้านผมก็ผัดแบบนี้ ผมเลยกินได้อย่างสบาย

จานนี้มาผมงง ว่าคืออะไรชื่อในเมนูเขียนว่าเกี้ยว เกี้ยวซ่า หรือเกี้ยวหมูพอกัดไปแล้วก็รู้ว่าเป็นกุยช่ายครับซึ่งแป้งจะหนาหน่อยแต่นุ่มอร่อย ด้านในจะมีน้ำและมีกุยช่ายครับ เกี้ยวจะไม่ร้อนเพราะคาดว่านึ่งมานานแล้ว แต่กินเย็นๆ ก็อร่อยไปอีกแบบเลยคาดว่า ทางร้านน่าจะอยากให้เราทานเย็นๆ ยิ่งจิ้มกับซอสเปรี้ยวแล้วอร่อยเหาะเลยละ

ยังไม่มีจานที่เป็นน้ำซุป พี่เขยผมแนะนำเมนูรากบัว ซึ่้งก็มาเป็นจานสีออกม่วงๆหน่อยซึ่งเวลากินรากบัวแล้วก็มีใยยืดๆอร่อยดีครับ ถ่ายมาแบบนี้ไม่รู้มีอะไรบ้างไปชมกันครับว่าในน้ำมีอะไรบ้าง

ในน้ำแกงรากบัวจะมีกระดูกหมูด้วยซึ่งผมก็ไม่ได้ชอบกินเลยต้องสละให้พี่เขยไป

จานสุดท้ายแล้ว ปลาช่อนเปรี้ยวหวาน ซึ่งดูแล้วอาจจะรสชาติไม่จัดจ้าน แต่จริงๆแล้วรสชาติเด็ดสุดเลยครับเมื่อเทียบกับเมนูก่อนๆ ปลาจะกรอบมากไม่มีก้างด้วยมีซอสเยิ้มๆหน่อย เปรี้ยวอ่อน หวานหน่อยๆ แซมด้วยสับปะรดเปรี้ยวแหลมหน่อย

กับข้าวพวกนี้ไม่มีข้าวสวยเลยนะครับ กินแต่กับอย่างเดียว และอาหารค่อยๆ เสริฟทำให้ทำให้ผมนึกถึงโต๊ะจีน

ก่อนเก็บเงินคุณพี่อยากลองทานเครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งผมเคยกินแล้วที่จีนครับชื่อว่า เจียตัวเป่า รสชาติก็คือน้ำหล่อฮังก้วย แต่มีการผสมสมุนไพรลงไปเพิ่มครับ

ถึงเวลาก่อนจากก็จ่ายค่าเสียหายกัน หมดไปทั้งหมด 1,090 บาท กินกันห้าคนก็ okay นะครับ มื้อนี้ผมเป็นเจ้าภาพราคาแบบนี้รับได้สบายเลย (แต่บ่อยๆ ก็อาจจะไม่ไหว)

รายการอาหารที่เราเขียนตอนแรกก็กลับมาเป็นใบเสร็จ เรียกได้ว่าไม่มีผิดพลาดแน่นอนครับ

ใครที่อยากทานอาหารจีน อยู่แถวพระรามสอง หรือไม่อยู่แถวนี้ เห็นรายการอาหารแล้วอยากกินก็มากันได้ครับ ไม่ได้รับค่าน้ำชาอะไรเลย (เพราะเค้าให้น้ำชากินฟรี ^_^)

face2cu