Life in Australia Part 1

การได้มีโอกาสเดินทางไปทวีปอื่นที่ไม่ใช่เอเชียนั้นก็ทำให้เราเห็นว่าการใช้ชีวิตของเรานั้นมีความแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะวัฒนธรรรม ความเชื่อ กฎหมาย ความเป็นอยู่ บันทึกการเดินทางครั้งนี้ผมขอเล่าไปการเดินทางและก็สอดแทรกประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้เจอมา

พร้อมกันรึยังครับ ไปกันเลย

11 เมษายน 2014 ออกจากทวีปเอเชีย สู่ทวีปออสเตรเลีย

ผมตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งรถ Taxi เดินทางขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเช้าที่ค่อนข้างวุ่นวายมาก เพราะเหล่าฝูงชนต่างออกเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเทศกาลหยุดยาวในวันสงกรานต์ การเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางด้วยการบินไทย เป็นครั้งแรกที่เดินทางด้วยสายการบินแห่งนี้ ใช้เวลาเดินทาง 8.5 ชั่วโมง ระหว่างที่อยู่บนเครื่องมีเครื่องเล่นหนังให้สามรถเลือกชม มีอาหารให้ทานสองมื้อ นั่งจนเมื่อยต้องลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย 

• ในการเข้าประเทศออสเตรเลียนั้น ห้ามน้ำอาหารที่ทำจากเนื้อหมูเข้าประเทศ และเครื่องสำอางค์ที่ทำจากไม้ ต้องสำแดงก่อนออกจากสนามบิน
• ห้ามใช้โทรศัพท์ ถ่ายรูประหว่างตรวจ ตม. มิฉะนั้นโดนปรับถึง 1,000 AUD

ถึง Sydney แล้ว ก้าวแรกที่ออกจากสนามบินก็พบกับความสงบ อากาศค่อนข้างเย็น สนามบินไม่ได้ใหญ่อลังการเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิ โชคดีทริปนี้มีคนท้องถิ่นมารับ และให้เราพักที่บ้านด้วย เจ้าบ้านซื้อแฮมเบอร์เกอร์ให้ทานรองท้องระหว่างเดินทางไปที่บ้านที่อยู่ที่ Spring wood ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆก็ถึงที่บ้านตอนสามทุ่ม แล้วก็พักผ่อน

12 เมษายน 2015 วันอาทิตย์แห่งความสุข

ตามปกติกแล้วทุกการเดินทางของผมนั้นจะมีแผนแน่นมาก แต่ไม่ใช่สำหรับทริปนี้ วันแรกของทริปคือการพักอยู่บ้าน บ้านของเจ้าภาพแห่งนี้สวยงามดังในหนังฝรั่ง Hollywood เลยก็ว่าได้ มีชั้นได้ดิน มีโรงรถ สนามหญ้า ต้นไม้เมืองหนาว ในบ้านตกแต่งได้อย่างสวยงาม แต่ก็ไม่ได้พักอยู่บ้านเฉยเพราะจะมี Party รวมเพื่อนมากกว่า 20 ชีวิต

มีกิจกรรมทำพิซซ่ากิน ผมได้เรียนรู้ว่าความพิเศษของพิซซ่านั้นอยู่ที่แผ่นแป้ง ส่วนหน้าพิซซ่านั้นแค่โรยให้ทั่วแล้วก็อบ ซึ่งการอบครั้งนี้ใช้เตาจากฟืนซึ่งใช้เวลานานมากกว่าจะทำให้เตามีอุณหภูมิถึง 300 องศา
มีไวน์อร่อยๆให้ทาน เล่นเกมซ่อนไข่ Easter กับเด็ก สอนเด็กๆพักกระดาษ เล่นปิงปอง สนุกสนานมากมาย

เวลาทั้งวันหมดไปกับกิจกรรมสนุกสนาน เพลิดเพลินจนหมดวันไปอย่างรวดเร็ว

13 เมษายน 2015 ออกเดินทางสู่ New Castle

ผมออกเดินทางจากบ้านเพื่อไป New Castle ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง แม้ว่าจะดูใน google นั้นไม่ไกลมาก แต่ระยะทางจริงๆ ค่อนข้างไกล สถานที่แห่งนี้ห่างจากตัวเมือง Syndey พอสมควรหากไม่มีรถส่วนตัวคงจะไม่ได้มาเที่ยว

Fort Scratchley Historic Site
Nobbys Road, Newcastle East, New South Wales, Australia

สถานที่แห่งนี้ติดกับชายหาด Nobbys ซึ่งมีผู้คนมาเล่นกระดานโต้คลื่น  บริเวณข้างชายหาดจะมีป้อม Scratchley ให้สามารถเข้าชมได้ แนะนำให้ขับรถขึ้นเขาไปจอดจะได้ไม่เสียเวลาเดิน จากระหว่างที่เดินก็จะเห็นปืนใหญ่หลายจุด แสดงให้เห็นถึงการป้องกันการรุกรานของศัตรู ครั้งแรกที่เห็นหาดรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลย อากาศก็หนาว แทบจะไม่อยากที่จะถอดเสื้อกันหนาวออก แต่แปลกที่คนออสเตรเลียกลับมาเล่นน้ำกันอย่างไม่กลัวความหนาว หรือคนท้องถิ่นชินกับอากาศแบบนี้ บริเวณรอบๆ จะมีนกนางนวลซึ่งหากเป็นบ้านเราก็คงจะเป็นนกพิราบแทน

หลังจากที่เดินเที่ยวรอบป้อมแล้วก็ออกเดินทางไปสวนสัตว์



Backbutt Reserve
จริงๆแล้วใน Sydney นั้นมีสวนสัตว์ Talonga Zoo ผมไม่ได้ไป แต่ได้มาที่ Backbutt Reserve แทน ซึ่งผมของเปรียบคล้ายๆ กับซาฟารีแต่เปิดให้เข้าชมฟรีคล้ายกับอุทยานให้ประชาชน

มีสัตว์ต่างๆ มีนกสวยงามให้เดินชม แต่จุดเด่นคือมีการซื้อตั๋วเข้าสัมผัสโคอาล่า ซึ่งถือว่าเป็นความพิเศษที่ Talonga Zoo ไม่มี หลังจากซื้อบัตรแล้วต้องตรวจสอบเวลา จากนั้นรีบไปจุดที่อนุญาตให้เข้าชมหมีโคอาล่าระยะใกล้ ผมเกือบพลาดเข้าเล่นกับหมีโคอาล่าเพราะหาทางเข้าไม่เจอ

หลังจากที่ได้สัมผัสโคอาล่าแล้วก็พบว่าโคอาล่าเป็นสัตว์ที่ขนนุ่มมาก คล้ายๆกับตุ๊กตา การเคลื่อนไหวไม่ช้ามาก เล็บของโคอาล่าใหญ่และแหลมมาก ต้องระวัง หลังจากได้สัมผัสแล้วก็เข้าชมสัตว์ประเภทต่างๆ และจากนั้นก็ไปทานอาหารเที่ยง

KFC ร้านอาหารที่เจอได้ในทุกประเทศ

ความแตกต่างของการกินในครั้งนี้คือ กินไก่ทอดแบบไม่มีซอสทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นการทานไก่ทอดกันอย่างจริงๆ มีให้แค่เกลือสำหรับใส่เพิ่มเติมเท่านั้น มีมันบดที่มีความหอมหวานของน้ำสต๊อก โคลสลอว์ก็มีรสชาติออกขมเล็กน้อย สำหรับผมค่อนข้างชอบโคลสลอว์

หลังจากที่ได้ทานหมดแล้วก็เหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาว่าแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นหนึ่งมีพลังงาน 2500 Kcal  ก็รู้สึกตกใจว่าทำไมถึงมากขนาดนี้ เมื่อไปดูแล้วที่แนะนำต่อคน วันละ8700 โอ้ พระเจ้าตอนที่ผมเรียนมานั้นวันหนึ่งเราใช้แค่ 1400-1600 Kcal หรืออาจเป็นเพราะภูมิอากาศรึเปล่าจึงทำให้ต้องใช้พลังงานสูงถึงเพียงนี้

จากนั้นเดินทางไปดูนกพาริกัน (นกที่คาบเด็ก เจ้าของท้องถิ่นเข้าบอกมา) แต่เรามาไม่ทันเพราะเลยเวลาให้อาหารจึงได้แต่มองเห็นนกพาริกันจากไกลๆ

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าสู่บ้านที่ Casula เพื่อพักผ่อน อาหารเย็นมื้อนี้เป็นอาหารชาวฟิลิปปินส์ซึ่งมีรสชาติคล้ายอาหารเส้นหมี่จีนเล็กน้อย ได้อยู่เล่นกับเด็กๆ และก็จบกิจกรรมสนุกๆ แบบเรียบง่ายในวันนี้

ยังมีต่ออีกหลายวันนะครับ

face2cu