Sukhothai in the past 2015 Day 2/3 - ในวันปีใหม่

วันที่ 1 มกราคม 2558 ปีใหม่ในสุโขทัย 
เปิดพุทธศักราชใหม่ผมยังคงอยู่ในเมืองเก่าสุโขทัยเช้าวันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้า ที่ต้องตื่นเช้าเพราะว่ามีโปรแกรมที่วางไว้คือเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้น จินตนาการครั้งแรกว่าจะมีผู้คนตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะเดินทางไปชมเหมือนเรา แต่เมื่อแต่งตัวออกจากห้องตอนตีห้าครึ่งท้องถนนดูเงียบเหงา มีรถวิ่งบ้างเล็กน้อย
ระหว่างทางค่อนข้างมืดมาก หากใครเดินทางด้วยจักรยานไม่แนะนำให้ออกแต่เช้ามืด รอให้มีแสงถึงค่อยเดินทางดีกว่า ดูอันตรายและเปลี่ยวมาก การเดินทางครั้งนี้ใช้ GPS่ ช่วยด้วยมิฉะนั้นอาจจะเลยได้ แม้ว่าผมใช้แล้วยังเลย เพราะทางเข้ายามเช้ามืดมองลำบากมาก


วัดสะพานหิน



เมื่อไปถึงจุดหมายตอน 5.50 น. ฟ้ามืดมาก มีรถคันผมเพียงคันเดียวที่มาถึง ไม่มีใครมาเลย ผมกับเพื่อนจึงรอให้ฟ้าสว่างก่อน เพราะไม่กล้าออกจากรถ บรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก เมื่อเริ่มมีแสงแล้วก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมากันประมาณ 4 กลุ่ม ถือว่าคนมาน้อยมาก
ก่อนเดินไปชมจะต้องออกแรงเดินขึ้นไปด้านบนก่อน ระยะทางสูงพอสมควร หากใครมีอายุต้องใช้เวลาในการเดินขึ้นเช่นกัน ช่วงที่ถ่ายรูปมาแสงน้อยมากภาพเลยไม่ชัด

เเดินขึ้นมาถึงแล้วก็จะเห็นถึงความใหญ่โตของวัดแห่งนี้ มีพระประธานเป็นที่ประดิษฐานพระปางประทานอภัย สูง 12.50 เมตร เรียกว่า พระอัฏฐารส (ข้อมูลจาก Wikipedia) เป็นวัดแห่งหนึ่งซึ่งแนะนำให้มาควรมาตอนเช้าเพราะอากาศเย็นสบาย เดินเหนื่อยแต่ก็ไม่ร้อน

ระหว่างที่ชมความสวยงามของวัดแล้วยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย สวยงามคุ้มค่ากับการที่ได้มาวัดแห่งนี้ยามเช้า ถือว่าเป็นแสงแรกของปี 2015 

วัดศรีชุม
 
หลังจากชมวัดสะพานหินแล้วจุดต่อไปคือ วัดศรีชุม เป็นวัดที่ห้ามพลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัย ใครมาสุโขทัยแล้วไม่แวะชมถือว่าไม่ถึง

เมื่อมาถึงแล้วมองไปที่มณฑปจากระยะไกลดูไม่ได้ใหญ่โตมาก อาจะเป็นเพราะระยะทางไกล เมื่อได้เดินเข้าไปใกล้ๆแล้วก็จะมีช่องแคบให้สามารถเดินเข้าไปภายในมณฑปได้ เมื่อเข้าไปแล้วก็จะพบกับพระอจนะองค์ใหญ่
เมื่อใครก็ตามที่ได้เข้ามาในมณฑปแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยนไปทันที จะรู้สึกสงบนิ่ง เห็นองค์พระอจนะขนาดใหญ่มองลงมา ผมใช้เวลาอยู่ภายในมณฑปประมาณสิบห้านาที รู้สึกประทับใจมากๆ ได้ไว้สักการะในวันปีใหม่ถือว่าเป็นการรับสิ่งดีๆในวันปีใหม่ ภายในมณฑปแห่งนี้มีทางขึ้นไปด้านบนด้วย แต่ปัจจุบันได้มีประตูเหล็กปิดไว้ไม่ให้สามารถขึ้นไปได้ หากขึ้นไปได้คงจะมีคนแห่ขึ้นไปมากแน่ๆ

วัดพระพายหลวง

วัดแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดศรีชุม เป็นวัดค่อนข้างใหญ่ แต่หลายๆจุดได้พังลงไปหลายส่วน เห็นเป็นซากปรักหักพังเป็นส่วนใหญ่

หลังจากชมวัดสามแห่งยามเช้าแล้วก็เดินทางกลับที่พัก(Wake Up at Muang Kao Boutique Hotel) แม้ว่าโรงแรมจะไม่มีอาหารเช้าให้แต่ก็มีมุมอาหารว่างให้ทานตลอดวัน ประทับใจตรงนี้ หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาได้
ผมทานขนมปังปิ้งแยมส้ม ชาร้อน กล้วยเล็บมือนาง และขนมผิง(ขนมขึ้นชื่อสุโขทัย หอมกรอบ อร่อย) เรียกว่าทานเกือบอิ่ม แต่ก็ยังอยากจะทานอาหารแบบเป็นจาน เพราะว่าเดี๋ยวจะต้องเดินทางไปอีกอุทยานหนึ่ง ออกจากที่พักไปทานอาหารท้องถิ่น บริเวณใกล้ๆจะมีตลาดสด แต่ตอนนั้นเวลาประมาณแปดโมงครึ่งแล้วตลาดก็วายกันหมดแล้ว เลยไม่ค่อยได้เห็นอาหารอะไรในตลาดสด แต่ก็ยังร้านอาหารรอบๆเปิดให้เลือกทานกันได้
ผมทานผัดไทเส้นเหนียวอร่อยมาก เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ควรลองทานที่สุโขทัย ส่วนปอเปี้ยทอดวุ้นเส้นผมซื้อจากตลาด ยังร้อนๆน้ำจิ้มทำจากมะขามอร่อยไปอีกแบบ

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

หลังจากเติมพลังกันจนอิ่มแล้วเราก็จะออกเดินทางไปอุทยานประวัติศาสตร์โดยรถยนต์ หากใครเที่ยวสุโขทัยมีเวลาก็ควรที่จะเที่ยวชมกัน


ก่อนออกเดินทางผมเตรียมขนม น้ำไปด้วย เนื่องจากจินตนาการไม่ออกว่าเป็นป่าเป็นเขา หรือจะเป็นเมือง แต่เมื่อไปถึงแล้วก็มีร้านอาหารต่างๆให้สามารถซื้อทานกันได้ เดินทางกันประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวแวะดูข้อมูล ดูแผนที่ เลือกจุดท่องเที่ยว มีหลายที่มากหากเที่ยวครบคงจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง จึงขอเก็บจุดสำคัญ

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ 


วัดที่ควรมาอย่างยิ่ง วัดแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำยม มีโบราณสถานให้ชมได้ชัดเจน ค่อนข้างสมบูรณ์มาก พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ตั้งเด่นสง่า ด้านข้างมีพระพุทธรูปปางลีลา และพระพุทธรูปยปางยืน  มีพระปรางค์ให้ขึ้นไปชมได้
ภายนอกพระปรางค์จะเป็นทรงอยุธยาที่สร้างครอบเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แสดงให้เห็นถึงการผนวกกันของสองอาณาจักร (ผมคิดเองนะครับ) เมื่อเดินขึ้นไปแล้วมองก่อนลองมองไปรอบๆ จะเห็นบรรยากาศรอบๆวัดแห่งนี้สวยงามมาก

วัดชื่นชม

 
วัดแห่งนี้มีได้การขุดค้นพบวัตถุโบราณและซากโครงกระดูกทีมีความเก่าแก่ ด้านหน้ามีเรียกเก็บเงินค่าเข้าด้วย แต่ก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ ภายในก็บอกว่าโครงกระดูกนั้นอายุเก่าแก่แค่ไหน  ภายนอกก็มีวัดชื่นชมเป็นโบราณสถานให้ดู แต่หลงเหลือน้อยมาก

วัดจันทร์เจ่า

วัดแห่งนี้ไม่ไกลจากวัดชื่นชน มาถึงวัดชื่นชมแล้วควรไปครับ ความพิเศษอยู่ที่ศิลปะการสร้างมาจากขอมโบราณ เป็นวัดที่เหมือนไม่มีใครดูแลเลยครับ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วรู้สึกนึกถึงการเที่ยวชมเขมรครั้งที่แล้ว 

หลังจากเที่ยวชมวัดรอบนอกแล้ว ก็เข้าสู่อุทยานหากนำรถมาก็เสียค่าเข้า 50 บาทถือว่าเป็นค่าบำรุงสถานที่ครับ สามารถขี่จักรยานภายในเขตอุทยานได้

วัดช้างล้อม


วัดแห่งนี้ต้องมาให้ได้เพราะเป็นวัดมีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างโดยการนำศิลปะจากศรีลังกามาเป็นการสร้างเจดีย์ บริเวณรอบเจดีย์จะมีช้างยืนอยู่ แต่ด้วยกาลเวลาทำให้ช้างเปลี่ยนรูปแบบไปมาก ส่วนชั้นสองก็จะมีพระพุทธรูปแต่ละช่อง ซึ่งสังเกตุว่าหัวของพระพุทธรูปจะหายไปหมดเลย เห็นแล้วเสียดายมาก คาดว่าคงโดนขโมย

วัดเจดีย์เจ็ดแถว

เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ มีเจดีย์มากมายให้สามารถชมได้ เจดีย์เจ็ดแถวมีรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลศิลปะจากที่ต่าง ๆ ลองมาชมได้ หากเหนื่อยก็นั่งพักได้ บางจุดมีต้นไม้บังแดดลมเย็นๆให้นั่งพักได้

หลังจากที่ชมวัดแล้วก็ตั้งใจจะไปชมวัดบนเขาแต่ไม่มีที่จอดรถ และมีแผนที่จะกลับไปชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยด้วย จึงเดินทางกลับที่พักก่อน ถึงที่พักเวลาประมาณบ่ายสามโมงก็แวะทานข้าวที่ร้านแซ่บโว้ย

รสชาติอร่อยดี ผมทานข้าวผัดต้มยำทะเลจานละ 60 บาท ถือว่าราคารับได้ รสชาติจัดจ้าน เครื่องทะเลจัดเต็ม ส่วนน้ำตกของร้านนี้อร่อยดี จากนั้นก็เดินทางเข้าห้องพักตากแอร์เย็นๆ ล้างหน้าพักผ่อนครึ่งชั่วโมงก่อนออกเที่ยวอีกครั้ง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
การเดินทางครั้งเที่ยววัดในอุทยานประะวัติศาสตร์รอบในนี้ผมใช้เดินเท้าครับ แต่หากใครที่มีเวลาน้อยหรือกลัวเหนื่อยก็เช่าจักรยานได้ ระยะทางการเดินแต่ละจุดห่างกันไกลสุดประมาณ 900 เมตรเองครับ รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรได้ การเดินจะทำให้เป็นวิวอย่างช้าๆ เป็นมุมสวยงามต่างๆ แต่ถ้าหากปั่นจักรยานก็จะได้อีกอารมณ์หนึ่ง

ขอเน้นนะครับ ว่าเที่ยวแค่รอบใน หากเที่ยวรอบนอกวัดศรีชุม วัดสะพานหินด้วย ต้องเช่าจักรยานเดินไม่ไหว

ลอง zoom ดูแผนที่ได้ มีวัดที่เดินเที่ยวประมาณ 5 แห่ง
วัดมหาธาตุ

ผมมาเยือนวัดแห่งนี้ครั้งที่สองก็ยังมีความสวยงามในอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้คนยามเย็นค่อนข้างมากได้เห็นมุมเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ก็ชอบมุมที่ถ่ายผ่านสระบัวแห่งนี้มากที่สุด ถ่ายจากนอกกำแพง

วัดศรีสระหวาย

วัดแห่งนี้มีพระปรางค์สามยอดแบบศิลปะลพบุรี มีความเป็นฮินดูและภายหลังเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ ด้านในสามารถเข้าไปชมได้ อลังการมาก

วัดตระพังเงิน
เป็นวัดที่อยู่ลึกสุด วัดจากทางเข้าอุทยาน มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีความเป็นสวยงามที่ควรมาเช่นกัน

วัดสระศรี
เป็นวัดที่ห้ามพลาดในช่วงยามเย็น เพราะจะเห็นแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่แห่งนี้ ผมมาช้าไปดูไม่ทัน เลยถ่ายภาพได้เท่านี้ครับ บริเวณด้านข้างมีพระพุทธรูปปางลีลาซึ่งมีความสวยงามสมบูรณ์มาก
เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยสุโขทัย

วัดชนะสงคราม
ช่วงที่ผมไปนั้นมีการปิดบูรณะเนื่องจากโดนพายุ จึงไม่สามารถเข้าชมได้ อาจจะต้องมาอีกครั้ง

วัดใหม่
วัดแห่งนี้มีขนาดใหญ่ แต่ไม่ค่อยมีใครเข้ามาชมกันแม้ว่าจะอยู่ด้านหน้าอุทยาน เหมือนเป็นวัดที่ถูกลืม ผมเดินคนเดียวตอนใกล้ค่ำก็ดูวังเวงหน้ากลัวเช่นกัน หากต้องการสัมผัสอารมณ์แบบผมลองมาคนเดียวตอนใกล้ค่ำ  หากต้องการเที่ยวให้ครบก็ควรขึ้นไปชม

หลังจากเดินเที่ยวจนครบแล้วก็กลับที่พัก แวะหาขนมทานเล่นที่ Seven Eleven จากนั้นก็นอนหลับสนิท วันนี้ทั้งวันได้สัมผัสสถานที่ประวัติศาสตร์ไทยมากมาย สนุกได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วย(แม้ว่าจะไม่มาก) แต่ก็ยังมีหนึ่งสถานที่ยังไม่ได้ไป แผนคือไปวันพรุ่งนี้ครับ

รอชมกันกันครับ

face2cu

ความคิดเห็น

  1. ยอดเยี่ยมมากครับ รีวิว

    ตอบลบ
  2. สงบ สวยงาม น่าชื่นชมยินดีที่เกิดเป็นชาวพุทธค่ะ สุโขทัย

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)