เที่ยวกัมพูชา วันที่ 1 - Ton Le Sap Lake, สักการะศาลเจ้าเจก-เจ้าจอม

ได้เวลาเที่ยวอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ซึ่งตอนแรกวางแผนว่าจะไปจีนแต่สุดท้ายด้วยหลายๆ อย่างที่ไม่พร้อมก็เลยได้ทริปใหม่โดยบังเอิญ คือไปประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา สถานที่จะไปก็เป็นสถานที่สำคัญของโลกเลย ส่วนค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าจีนหลายเท่า ทำให้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

วันที่ 21 ตุลาคม 2555 เวลา 4.00 น.
ผมกับเพื่อนผมไปที่บางซื่อเพื่อขึ้นรถบัส ซึ่งแต่ละคนก็ทยอยกันมา เมื่อถึงเวลา 5.00 น. รถก็เริ่มออกเดินทาง

หลังจากเริ่มเดินทาง พี่ๆที่ดูแลทริปนี้ก็เริ่มมีกิจกรรมแนะนำตัวกันทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นครับ ให้แนะนำตัวเอง และบอกความคาดหวัง ซึ่งความคาดหวังของผมครั้งนี้ ก็คือ "การได้ไปเยี่ยมชมโบราณสถานที่ Tomb raider ใช้ถ่ายทำ และเยี่ยมชมสถานที่มหัศจรรย์ระดับโลกด้วย"

นั่งหลับไปสักพัก เวลาประมาณ 7-8 โมง ก็รับประทานอาหารกันบนรถ แม้จะไม่ได้หรูแต่รสชาติอร่อยมากครับ แถมจำนวนก็ค่อนข้างเยอะ

เมื่อทานอาหารเสร็จ ก็นั่งรถต่อ จนถึงโรงเกลือ สถานที่สินค้ามีแบรด์(ติดที่ตัวสินค้า)
สิงที่ทำต่อไปก็คือ รอเวลาที่ไกด์ดำเนินการเรื่องเตรียมเข้าประเทศกัมพูชา
ส่วนสัมภาระที่เราใช้กันสามวัน ก็มีคนมาบริการให้ แถมไม่ต้องให้ทิปด้วย และเพื่อความชัวร์ว่ากระเป๋าเราไม่สูญหาย ทางไกด์ก็ให้พวกเราตรวจสอบว่ากระเป๋าอยู่ในรถเข็นหรือไม่ รอบครอบมากๆ

เดินไปตรวจหนังสือเดินทางกันเลย
ก่อนออกจากประเทศรู้สึกคิดถึงประเทศเล็กน้อย แต่ใจก็พยายามจะเร่งให้ได้เข้าประเทศกัมพูชา เร็วๆ


เมื่อเข้าไปแล้วก็ต่อแถว ตามด้วยยืน Passport เพื่อประทับตราเข้าประเทศ

เมื่อเดินออกมาอีกฝั่งก็รู้สึกว่า นี่เราออกจากประเทศไทยแล้วหรอ เพราะระยะทางห่างกันแค่ 10 ก้าวเท่านั้นเอง พอเดินออกมา ก็เห็นสัญลักษณ์ของกัมพูชาทันทีเลย
รู้สึกได้ถึงความแตกต่างทันทีที่เดินออกมา
บริเวณนี้เป็นด่านปอยเปต ซึ่งมีบ่อนเต็มไปหมดเลยครับ คุยกับเพื่อนก็พึ่งรู้ว่าเพื่อนก็เคยมาตั้งสองครั้งแหนะ
ที่นี่มีพวงมาลัยซ้าย เลยทำให้เรารู้สึกแปลกๆ ในช่วงแรกๆ กับการขึ้นรถทางด้านขวามือ
ซัวซไดย คำแรกที่ไกด์ที่นี่พูด แม้จะไม่ใช่ คนไทยแต่เค้าก็พูดได้ค่อนข้างชัดครับ แต่เค้าบอกว่าปกติเป็นไกด์ญี่ปุ่น (โอ้แม่เจ้า ไกด์พูดญี่ปุ่นก็ได้ ไทยก็ได้ เก่งจริงๆ เลย)
ระหว่างทางเดินทาง ก็มแวะให้เข้าห้องน้ำซึ่งสภาพก็ไม่ค่อยดีมาก แต่สำหรับผมสบายมากครับ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ถ่ายรูปกับร้านค้าหน่อย ซึ่งสินค้าที่เค้าขาย(ขวดเหลืองๆ อยู่ด้านหลัง) มีขายน้ำมันเบนซินด้วยแปลกดีเนอะ


ร้านอาหารที่ไปทานมื้อกลางวัน ก็ลุ้นว่าจะเป็นอาหารอะไร เพราะปกติไปกับทัวร์คงไม่พ้นโต๊ะจีน แต่พอถึงร้านกลับเป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ โอ้ย ทำไมหรูขนาดนี้ แถมอาหารยังมีหลายชาติอีก ไทย จีน ญี่ปุ่น ถือว่าการกินนั้นไม่ลำบากเลยครับ แต่ก็เสียดาย อยากลองกินอาหารพื้นบ้านกัมพูชาจริงๆ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ไกด์ไทยบอกว่าคงจะทานกันได้ยาก

มื้อแรกที่ตักมาก็เป็นอาหารพวกผักสลัด ซึ่งยังไม่ชินกับเนื้อ เพราะว่ากินเจมาตลอด แล้วมาออกเจที่นี่

หลังจากที่กินอาหารเที่ยงแล้วเห็นไกด์ยืน ต้อนรับก็ขอถ่ายรูปซะหน่อย ซักถามประวัติเค้า ว่าเป็นไกด์ญี่ปุ่นแล้วทำไมพูดไทยได้ ก็สืบทราบมาว่าเค้ามีญาติที่อยู่ที่ชายแดน เค้าเลยฟัง พูดไทยได้ เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ ถ้าพูดไม่ได้เค้าคงอดมารับงานนี้แน่ๆ

โปรแกรมต่อไป คือไป " ทะเลสาบโตนเลสาบ "

เดินทางมาถึงลงจากรถก็ค่อนข้างร้อนหน่อย ดูเป็นธรรมชาติ แต่กระเพาะปัสสาวะผมดันเกิดอาการอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น (เล่าละเอียดไปไหม) เลยไปถามไกด์ว่า มีห้องน้ำมั้ยจะขอเข้าก่อนลงเรือ ไกด์ถามคนแถวนั้น ก็บอกว่าไม่มี ต้องไปเข้ากลางแจ้ง ซึ่งผมก็โอเค เพราะดีกว่าต้องไปอั้นบนเรือ ว่าแล้วก็เลยต้องไปหามุมปลดทุกข์ หลังจากเสร็จแล้วก็เดินมาขึ้นเรือ ไกด์ก็บอกว่า ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นจุดขึ้นเรือที่ไม่ค่อยที่ดี ยังมีอีกสองจุดที่ดีกว่านี้ (ในใจคิดว่า ทำไมไม่พาไปจุดที่ดีๆ ละเนี้ย)

บรรยากาศบนเรือครับ มาสายเลยได้ตั๋วยืนไปซะงั้น จริงๆแล้วด้านหลังก็มีที่นั่งแต่ควันค่อนข้างเหม็นครับ เลยมายืนก่อน แต่พอเรือแล่นได้ซักพัก กลิ่นต่างๆ ก็ดีขึ้นครับ ระหว่างทางแรกๆ เห็นแต่ต้นไม้น้ำ กับพื้นน้ำครับ ก็ยัง งง ว่าเราจะไปดูอะไร กัน จนสักพักก็เริ่มเห็น
หมู่บ้านกลางน้ำ (ไม่ได้เกิดจากฤดูน้ำหลาก เหมือนปี 2011 นะครับ) ที่มีผู้คนอาศัยมีเด็ก ผู้ใหญ่อาศัยกินนอนกันที่นี่ ผมรู้สึก งง ว่าทำไมเค้าถึงไม่อยู่บนฝั่ง เพราะบนฝั่งก็ยังมีพื้นที่มากมาย พอนั่งเรือไปเรื่อยๆ ก็เกิดความคิดนึงขึ้นมาว่า ชีวิตของคนที่นี่อาศัยปัจจัยสี่จริงๆ ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากมาย หรืออุตสาหกรรม อยู่แบบพอเพียงแค่นี้ชีวิตก็มีความสุขได้



นั่งรถไปสักพักเรือก็เทียบจอด ณ ร้านค้ากลางน้ำ
มีร้านค้าจะเล็กแต่สินค้าก็มีมากมาย เครื่องประดับ เสื้อผ้า น้ำ กระเป๋า รูปถ่าย ยาดอง พระ และอื่นๆ อีก แถมใจดีให้เข้าห้องน้ำ ถ่ายรูป ฟรีด้วยครับ

ระหว่างเดินในร้านก็มีทางเดินไปอีกเรือลำนึง ก็เจอสิ่งนี้ครับ
มันคือจระเข้ด้ว ตอนแรกผมเห็นถึงกับตกใจ เพราะเข้าใจว่าในบ่อนี้เค้าเรียกปลา เลยถามเค้า
ว่าเลี้ยงไว้ทำอะไร ก็ได้ทราบมาว่า เลี้ยงเอาไว้กิน หรือใช้หนังก็ได้ซึ่งแต่ก่อนราคาดีมากเลย
 ที่ร้านนี้มีสองชั้นครับ เลยขึ้นมาเก็บ ภาพสวยๆ มาฝาก
 ส่วนที่ร้านนี้ ในยามว่างคาดว่าเค้าคงจะวาดรูปอย่างแน่นอนครับ สวยดีครับ

หลังจากเดินชม ถ่ายรูปแล้ว ก็อำลาคนที่ร้านแล้วก็นั่งเรือกลับฝั่งครับ
ลาก่อน โตนเลสาบ สายน้ำสร้างชีวิต

หลังจากชมชีวิตความเป็นอยู่บนน้ำแล้ว รายการต่อไปก็คือ
"สักการะศาลเจ้าเจก-เจ้าจอม"
มาถึงที่นี่ก็รู้สึกไม่ต่างกับสวนลุมบ้านเรา เพราะมีบรรยากาศธรรมาชาติมากครับ
แต่อยากบอกว่าที่นี่ร่มรื่นมากครับ ต้นไม้สูงสง่ามากๆ ในวันที่ผมไปนั้นมีการทำวัดเย็นด้วย

ทุกคนได้เข้าไปสักการะศาลเจ้าเจก-เจ้าจอม และก็ยืนดูรอบๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ได้พบน้ำพุ ซึ่งที่นี่นั้น คงความเป็นศิลปะของกัมพูชามากๆครับ ลองดูซิครับ

นักเรียนนักศึกษาแต่งตัวเรียบร้อยมาก แต่น้ำพุที่นี่อนุญาตให้คนลงไปเล่นได้ด้วย (น่ารักดี)

จากนั้นเราก็ได้ไปทำบัตรเพื่อเข้าชมปราสาทในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายคนละ 20 USD
ส่วนบัตรนั้นไม่ได้ซื้อแค่อย่างเดียว ยังต้องถอดรูป (ถ่ายรูป) เข้าไปในบัตรด้วย
ได้บัตรแล้ว ดูรูปตัวเองแล้วน่ากลัวจริงๆ

ทางไกด์เห็นว่าเวลาเหลือกะว่าจะพาขึ้นปราศาลบาเค็ง แต่เนื่องจากมันใกล้จะมึดก็เลยต้อง งด

เมื่อขึ้นรถทางไกด์และพี่ๆ ที่ดูแลก็สอบถามกันว่าพรุ่งนี้จะตื่นกันกี่โมงดี เพราะว่าวันที่สองนั้นจะเป็นวันที่เราต้องไปเยี่ยมชมหลายปราสาทหากเราตื่นเต้นเช้าเท่าไหร่เราก็จะยิ่งมีเวลาชมปราสาทได้นานขึ้น สุดท้ายก็ vote กันได้ คือ 5-6-7  ตื่นตี 5 กินข้าว 6 โมง 7 โมงล้อหมุน เมื่อสรุปกันได้แล้ว รถก็ถึงร้านอาหารเย็น ซึ่งก็ได้กินบุฟเฟ่ต์
ก็เลือกกินที่แปลกๆ แต่ขนมครกชิ้นใหญ่มาก แถมมีน้ำจิ้มให้ราดด้วย แปลกดีแฮะ

ทานเสร็จก็เข้าพักที่โรงแรม Smiling Hotel Siemens Reap Cambodia.
ซึ่งคุณภาพห้องมาตรฐานดีครับ ทุกอย่างครบครัน มี wifi ให้บริการฟรีด้วย เพื่อนผมก็รีบไปเล่นเกมบน iPhone ต่อ
ปล่อยให้ผมนอนอยู่ในห้อง เวลาประมาณ สี่ทุ่มกว่าๆ ผมก็หลับซะสนิท จนเพื่อนเคาะประตูเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเลยครับ

ไปชมกิจกรรมวันที่สองกันครับ  click

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)