Music of puppy love (Love Project 2 )

เสียงดนตรีนี้แว่วเข้ามาให้หูอีกครั้ง ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่ากลับไปเจอเธออีกครั้ง เพียงแต่เสียงเพลงครั้งนี้กลับนำพาความเศร้ามาให้กับฉันเพราะวันนี้ฉันไม่มีเธอยืนข้างฉันอีกต่อไป

เมื่อสองปีที่แล้วฉันพาลูกค้าไปที่ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทย และมีการแสดงมากมาย ฉันนัดกับลูกค้าตอนสองทุ่ม เมื่อลูกค้ามาถึง ฉันก็ต้อนรับ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีสำคัญต่องานของฉันมาก ฉันเห็นนักร้องแจ๊สซึ่งกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที ฉันเลยเข้าไปทักทายเค้า และขอเพลงเพราะๆ เพื่อที่จะได้เอาใจลูกค้า นักร้องแจ๊สท่านนี้ก็ได้ทำให้บรรยากาศการพูดคุยกับลูกค้านั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น

เวลาล่วงเลยไปถึง 5 ทุ่มฉันส่งลูกค้าขึ้นรถ แล้วกลับมาชำระเงินระหว่างที่รอชำระเงิน ฉันเห็นนักร้องคนนั้นก็เดินมาคุยกับเพื่อนของเขา แล้วเค้าก็หันมาหาฉัน พร้อมกับนามบัตรของเค้าและแนะนำตัวว่า "ผมชื่อ กาย ครับ แล้วคุณล่ะ" ฉันรู้สึกประหม่าไปซักพัก แล้วบอกกลับว่า "ฉันชื่อ กร ค่ะ" ฉันหยิบนามบัตรขึ้นให้กาย ส่งยิ้มให้เค้า และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นค่ะ

หลังจากเมื่อคืนที่มีงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้า ฉันก็ปิดเสียงมือถือ พอตอนเช้าเปิดเครื่องมาก็พบ message จากเบอร์แปลก ส่งมาว่า

"สวัสดี คุณกรครับ ผมกายนะครับ เมื่อคืนเสียงผมทำให้คุณฝันดีบ้างรึเปล่าครับ"

ฉันยิ้มและรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเพิ่มขึ้น แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยแต่ฉันก็คิดว่าฉันมีลักษณะที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร ฉันใช้ชีวิตประจำวันไปตามปกติ เพียงแต่ว่าทุกๆ บ่าย กายจะโทรมาคุยกับฉัน ถามไถ่อย่างห่วงใยฉันมาตลอด แม้จะคุยกันเพียงแค่สองสามนาที ช่วงเย็นนั้นเราไม่ค่อยได้คุยกันเพราะว่าเค้าจะต้องไปร้องเพลงตามร้านอาหาร จากวันเป็นเดือน ฉันรู้สึกได้ว่าเค้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้ว ตลอดเวลาสองเดือน เค้าเป็นคนที่เที่ยงตรงมาก ฉันมักจะหยิบมือถือขึ้นมารอเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง และก็จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทุกครั้ง ทุกๆครั้งที่เห็นชื่อคำว่า กาย ฉันรู้สึกถึงหัวใจที่พองโตของฉันนั้นกำลังล่องลอยในอากาศ

กายเป็นคนโรแมนติกมาก เค้ามักมีคำพูดหวานๆ ก่อนวางสายจากฉันเสมอ เรามักนัดเจอกันช่วงเวลาที่เค้าว่างๆจากงาน อาหารที่เค้าชอบทานไม่ได้เห็นร้านอาหารหรู แต่เป็นเพียงร้านอาหารข้างทางซึ่งพลุกพล่านไปด้วยผู้คน แต่เรื่องตรงนั้นฉันก็ไม่เคยได้สนใจมากกว่าการที่จะได้ไปเจอเค้า กายเป็นคนชอบศิลปะ และเค้าก็ไม่ค่อยมีเก็บเงินมากมาย ฉันมักบอกเค้าเสมอว่าต้องประหยัดเข้านะอีกหน่อยจะได้ไม่ลำบาก แต่เค้าก็มักจะพูดเสมอว่า ความสุขในอนาคตคาดหวังไม่ได้หรอก ขอให้ทำในสิ่งที่อยากทำตอนนี้ดีกว่า เงินที่เค้าหามาได้นั้นก็มักจะให้เพื่อนยืมไป ได้คืนบ้างไม่ได้คืนบ้าง เค้าก็ไม่ได้ใส่ใจคิดแต่เพียงว่าได้ช่วยเหลือเพื่อน ฉันก็คงทำได้แต่แค่บอกเค้า

ฉันรู้จักกับกายมาถึง 9 เดือน เราเริ่มเหมือนจะกลายเป็นเพื่อนที่รู้ทุกอย่างซึ่งกันและกัน ฉันมีความฝันว่าจะไปฝรั่งเศสเพื่อที่จะดูหอไอเฟล ในขณะเดียวกันเค้าก็มีความฝันจะไปอังกฤษ ไปดูนักร้องแจ๊สที่เค้าชื่นชอบฉันและกาย วางแผนว่าจะไปเที่ยวกัน แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องเวลา และเรื่องเงินด้วย แต่ฉันก็เชื่อว่าวันนึงฉันและกายก็จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในช่วงเวลาห้าทุ่มซึ่งฉันกำลังจะเข้านอน กายโทรมาหาฉันพร้อมกับเสียงตื่นเต้น และบอกกับฉันว่า กายจะได้ไปร่วมแสดงงานร้องเพลงที่ประเทศฝรั่งเศส กายเล่าให้ฉันฟังว่ามีฝรั่งคนนึงซึ่งเป็นคนทำงานด้านดนตรี ต้องการนักร้องชาวเอเชียไปร่วมงาน ซึ่งเสียงของกายและท่าทางเหมาะสำหรับงานนี้เค้าเลยให้โอกาสที่กายจะไปแสดงที่ฝรั่งเศส ฉันดีใจกับกาย แต่ก็แอบน้อยใจที่ไม่ได้ไปกับกาย แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็ถือว่ากายมีโอกาสในชีวิต

สองเดือนในการเตรียมตัวของกาย ฉันรู้สึกว่ากายมีเวลาให้ฉันน้อยลง เพราะว่าช่วงเวลา ทุกๆ บ่ายสองครึ่งนั้นกายจะต้องซ้อมร้องเพลงกับ โซเฟีย เพื่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานแสดง ฉันเข้าใจกายดีว่า เวลานั้นเป็นเรื่องสำคัญสำคัญกับเค้า เราคุยกันน้อยลง

วันนี้ฉันอยากจะsurprise กาย ด้วยการมาหาเค้าโดยที่ไม่ได้บอกเค้า ฉันซื้อช๊อกโกแลตขนมที่กายชอบไปให้ฉันยืนรออยู่หน้าห้อง กำลังจะคิดว่าจะเค้าไปหาด้วยวิธีไหนดี  ฉันเห็นโซเฟียคุยกับกาย เรื่องนัดอะไรซักอย่างนึง ซึ่งฉันก็ได้ยินไม่เต็มหูนัก แต่ก็พอได้ยินว่าเป็นวันเสาร์ตอนเย็น โซเฟียบอกกับกายว่าต้องไปให้ได้นะแต่กายก็ไม่รับปาก ฉันเห็นว่าการจะเข้าไปตอนนี้ไม่เหมาะแน่ๆ เลยกลับออกมาก่อน โดยไม่ได้กพบกับกาย แล้วขับรถกลับไปทำงานของฉัน ด้วยความอยากรู้ของฉันเลยโทรไปหากายแล้วจึงถามว่า

กร : สวัสดีกาย เสาร์ตอนเย็นไปไหนรึเปล่า
กาย : . . . เอ่อ มีอะไรหรอ กร
กร : ฉันอยากรู้น่ะว่าเธอว่างรึเปล่า
กาย : ผมน่าจะมีร้องเพลงนะครับ
กร : หรอ ที่ไหนล่ะ จะตามไปดู
กาย : มันไม่สะดวกนะ กร ไปดูวันอื่นดีกว่า เดี๋ยวกายขอไปซ้อมก่อนนะ

ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิด และรู้สึกว่ากายมีอะไรปิดปังฉัน แต่ถ้าหากว่าฉันไปถามกายตรงๆ อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรานั้นอาจจะแย่ลง ก็ได้ ฉันโชคดีที่มีเบอร์โซเฟีย ตอนนั้นกายเคยโทรมาฉันโดยใช้เบอร์โซเฟีย โซเฟียเป็นลูกครึ่งอังกฤษ เธอสวยมาก เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจมากและร้องเพลงเพราะด้วย ฉันกดเบอร์เธอขึ้นมาแต่ก็ลังเลว่าจะโทรไปถามเรื่องนัดดีรึเปล่า แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ได้โทร

ตั้งแต่วันพุธที่กายบอกปัดเรื่องเย็นวันเสาร์ ฉันก็รู้สึกว้าวุ่นในจิตใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าโลกทั้งใบทำไมถึงทรยศฉัน ฉันอยากรู้ว่าทำไมกายต้องปิดเรื่องนี้กับฉันด้วย เวลาที่แสนยาวผ่านไปอย่างช้า จนกระทั่งวันอาทิตย์ฉันตื่นขึ้นมาที่บ้าน พร้อมกับพบ message ของกายว่า

"วันนี้มาที่ห้องผมหน่อยซิครับ"

ฉันไม่แน่ใจว่ากายมีอะไรจะบอกฉัน แต่ร่างกายฉันก็รีบขับรถไปหากายที่คอนโด เมื่อฉันถึงคอนโดฉันกดลิฟท์ไปชั้นสี่ ชั้นที่กายอยู่ และเดินออกจากลิฟท์ไป  ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าห้องกายแล้ว ฉันนิ่งสงบสักพัก ได้ยินเสียงหัวเราะของชายหญิง เล็ดมาจากห้อง ฉันรู้สึกใจหวิวมากว่าควรจะไป หรือควรจะเข้าไปดี แต่ในเมื่อฉันมาแล้วฉันก็เคาะประตู และเมื่อประตูเปิดออกก็พบเพื่อนสนิทของฉัน โซเฟีย และกายอยู่ในห้อง ทุกคนต่างร้องพร้อมกันว่า Happy birthday "โอ้ " ตอนนั้นหัวใจฉันเหมือนกับมีชีวิตกลับขึ้นมาใหม่ เพราะตลอดช่วงเวลานั้นฉันคิดต่างๆ นานา ว่ากายนั้นมีอะไรปิดบังฉัน กายแต่ตัวใส่เสื้อเชิ้ตอย่างหล่อ เดินเข้ามาที่หน้าฉันแล้วถือกล่องของขวัญมาให้ เพื่อนของฉันและโซเฟีย ก็ต่างร้องโห แซวฉันกันใหญ่ ฉันรับของจากกายแล้ว กายก็พูดว่า "ทั้งของ และหัวใจของผม เป็นของกร แล้วนะครับ" ชีวิตของฉันเหมือนดังเป็นเจ้าหญิงเลย พวกเรากินเค้กกัน และฉันก็ได้เปิดกล่องของขวัญออกมา แล้วก็พบว่าในกล่องมีCD แผ่นนึงซึ่งกายเป็นคนร้องให้กับฉัน และกายก็ได้บอกว่า วันเสาร์ที่ไม่ว่างนั้นเค้าตั้งใจทำเพลงให้แก่ฉัน

วันนี้ช่างเป็นวันที่พิเศษที่สุดสำหรับฉันเลย

เรื่องราวต่างๆที่ฉันคิดมากก็ไม่ได้มีอะไรเลย ความรู้สึกสดใสกลับมา ฉันเชื่อมั่นในตัวกายอย่างเต็มที่ และเหลือเวลาอีกเพียง 1 อาทิตย์ที่กายจะบินไปแสดง ฉันไปช่วยกายเตรียมพร้อมไปเดินทาง แม้ว่ากายจะไปเพียงแค่ 1 อาทิตย์ แต่สำหรับฉันนั้นมันดูช่างยาวนานจัง ในวันที่ฉันไปส่งกาย ฉันบอกโซเฟียว่า ช่วยคุยกายให้อยู่ในสายตาด้วยนะ อย่าให้ออกนอกลู่นอกทาง ซึ่งโซเฟียก็ได้แต่ยิ้มและมองฉันทำนองว่า ทำตัวเป็นเด็กจริงๆ

เมื่อกายบินไปฝรั่งเศส ฉันก็กลับมาบ้านพร้อมกับฟัง CD ที่กายให้ และทำให้กายรู้สึกอยู่เคียงข้างฉัน . . .

message ใน Facebook จากกายส่งมาหาฉันหลังจากที่กายบินไป 4 วันว่า กายจะอยู่ต่อ เพราะมีงานเพิ่่มต่อ ซึ่งกายก็ไม่ได้ระบุวันกลับ ฉันเลยโทรไปหากายซึ่งปรากฎว่าเบอร์นี้ถูกปิดตลอด สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือติดต่อกับกายผ่านทาง Facebook เท่านั้น

ตลอดวันทำงานของฉันสิ่งที่ฉันเฝ้าคือ message facebook จากกาย ฉันส่งข้อความหากายมากมาย ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับเลย จนเวลาผ่านไปเป็นเดือน ก็ไม่เคยได้รับ message กลับมาจากกาย ฉันไม่รู้ว่าฉันจะตามหากายได้ที่ไหน อย่างไร

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พร้อมกับเบอร์แปลกหน้า

กร : ฮัลโล สวัสดีค่ะ
กาย : กร นี่กายเองนะ
กร : กายเป็นอะไรรึเปล่าทำไมติดต่อไม่ได้เลย
กาย : กายมีเรื่องอะไรจะบอกบางอย่าง

กร : เรื่องอะไรหรอ กาย
กาย : กายขอโทษนะ กร

กร : ขอโทษเรื่องอะไรค่ะ กาย
กาย : กายรักกรน่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา กายมีความสุขมาก 

กร : แล้ว อะไรล่ะ กร ไม่เข้าใจน่ะ
กาย : ผมอยู่ตรงนี้มีงานเข้ามาหลังจากที่ได้แสดง ซึ่งหลายๆ คน offer ให้ผมไปร่วมแสดง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าผมจะได้กลับประเทศไทยวันไหนเลย

กร : แล้ว ทำไมหรอค่ะ
กาย : ผมเชื่อว่ากรเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง และอยากให้เรากลับไปอยู่ในฐานะเพื่อนที่ดี เพื่อให้กรได้เปิดใจให้แก่คนใกล้ตัว มากว่าผม ที่อยู่จากแดนไกล

กร : กาย ไม่เชื่อใจกรหรอ กรรอกายได้เสมอนะ
กาย : แต่ผมกลัวว่าผมจะไม่สามารถซื่อสัตย์กับกรได้เหมือนเมื่อก่อน เวลา สถานที่ เราแตกต่างกันมาก เราควรที่จะให้อิสระต่อกันมากกว่า แม้ว่าเริ่มแรกจะเจ็บปวดสำหรับผมกับกร

กร : ไม่นะ กรจะรอกาย
กาย : อย่าทำแบบนี้เลย กร วันนึงเราจะเข้าใจกันเอง แค่หนึ่งเดือนก็ทำให้กายคิดถึงกรมาก แต่โอกาสของชีวิต กลับทำให้กายต้องห่างจากคนที่กายรัก ซึ่งกายก็ต้องเลือก กายก็เลือกโอกาสของชีวิต ไม่ใช่ว่ากร ไม่ใช่คนสำคัญสำหรับกายนะ เพียงแต่ เส้นทางชีวิตกายเป็นแบบนี้ และถ้าอยู่แบบนี้ต่อไป ก็คงจะไม่เป็นผลดีระหว่างเรา  กายขอโทษนะ

กร : กาย ฉันจะทำอย่างไรดี
กาย : กร เดี่ยวผมคงจะต้องวางแล้วล่ะ นี้เบอร์โทรศัพท์สาธารณะน่ะ โชคดีนะกร ลาก่อน

กร : เดี๋ยวค่ะ กาย

สิ้นเสียงสัญญาณโทรศัพท์ไป

โลกแห่งความเงียบเข้าครอบงำฉัน หลังจากที่กายวางสายไป ฉันอยากจะโทรไปหากายอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพียงแค่กายบินไปต่างประเทศแค่เดือนกว่า ทำให้เราต้องแยกทางกัน

ผ่านมาแล้ว 2 เดือน ฉันเข้า facebook เพื่อค่อยติดตามกาย ก็ไม่ได้เห็นสิ่งใดใน facebookเคลื่อนไหว และมีเพียงรูปหอไอเฟล เพียงรูปเดียวที่เขานำขึ้น facebook
 ฉันยังคงสับสนกับการจากลาครั้งนี้ เพราะว่าสิ่งที่กายบอกคือ กายยังรักฉัน ถ้าหากกายบอกไม่รัก หรือถ้าฉันทำตัวไม่ดี คงจะเป็นเหตุผลที่คนทั่วไปใช้กัน แต่ทำไม คนรักกันสองคนจึงต้องแยกทางกัน ฉันยังไม่เข้าใจกาย ในขณะนี้

เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนผ่านมา 6 เดือนแล้วฉันเริ่มทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ facebook ของกายที่เคยเข้าไปดู ก็หลงลืม ไม่ได้เข้าไปดู ชีวิตฉันอิสระมากขึ้น เลิกนึกถึงเรื่องกาย ตั้งใจทำงาน และได้ดูแลคนใกล้ตัว แต่วันนึงฉันรู้สึกคิดถึงกาย เลย update statue ว่า

"เธอพูดถูกนะ ว่าการแยกกันน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่ฉันยังรักเธอ"

หลังจากนั้นไม่นานก็มี comment กลับว่า

"ความรักไม่ได้จบลงตรงการแค่ได้ครอบครองครับ"

ฉันดูชื่อใน facebook แล้วไม่แน่ใจว่าเป็นใคร และเคยไป add ผู้ชายคนนี้ตอนไหน ฉันเลย post ต่อว่า

"คุณเป็นใครค่ะ"

และได้รับ คำตอบกลับว่า

"ผม บิ๊กครับ ยินดีที่ได้รู้ แล้วคุณล่ะ"

*เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)