Love on the table (Love Project)

วันนี้ผมแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ เพราะว่าวันนี้จะเป็นวันสำคัญของผมที่จะนัดเพื่อนใหม่ ผมคุยกับเธอผ่าน facebook เป็นเวลา 2 เดือนล่ะเลยคิดว่าเราน่าจะพบหน้ากัน ผมนัดสถานที่ธรรมดาในร้านเงียบๆ เพื่อที่ว่าเราจะได้คุยกันรู้จักกันมากขึ้น ผมไปก่อนเวลาสัก 30 นาทีซึ่งไม่ได้เป็นนิสัยตัวผมเลย ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมจัดเครื่องแต่งกายให้ดูดี



ระหว่างที่รอเธอมา ผมนั่งดูโทรศัพท์ รอว่าเธอจะโทรมาหาเมื่อไหร่ แต่แล้วก็ปรากฎว่ามีหญิงสาวคนนึงปรากฎขึ้นตรงข้างๆโต๊ะ แล้วถามผมว่า "ใช่บิ๊ก รึเปล่า" ผมอึ้งไปสักพัก เพราะว่าไม่คิดว่าเธอจะมาก่อนเวลาและอีกอย่างนึงคือ ไม่คิดว่าเธอจะมาทักผมก่อน ผมรู้สึกว่าผมควรจะออกไปรับเธอเข้ามาที่ร้านมากกว่าด้วย เธอขยับตัวเธอนั่งลงบนเก้าอี้แล้วถามผมว่า "สั่งอาหารรึยังค่ะ"

ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะวางตัวสบายๆ กับผมแบบนี้แม้ว่าเราจะคุยกันมาสองเดือนแต่ไม่เคยเจอกันมาก่อนผม บริกรมารับรายการอาหารและจากไป เหลือเพียงผมและเธออยู่บนโต๊ะ เธอชื่อ กร ครับ เธอเป็น Sale อยู่บริษัทสารเคมีที่นึง ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลิกของ Sale ก็ได้ ที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้า และคนหน้าแปลกอย่างผม ได้อย่างราบรื่น สิ่งที่เธอบอกผมคือว่าเธอชอบการเดินทางครับ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับผม ที่รักการอยู่กับที่ เธอบอกว่าชีวิตนึง เกิดมาทุกคนต้องเดินทางเพื่อจะเปิดหูเปิดตา ผมว่ามุมมองเธอก็เป็นอีกมุมมองนึงที่แตกต่างไปจากผม ผมคุยกับเธออยู่ 1 ชั่วโมง โดยที่เราก็ต่างเล่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นและต่างเจอมาซึ่งกันและกัน หลังจากนั้น ผมกับเธอก็ไปเดินดูของตามร้านค้าต่างๆ เธอชอบซื้อเสื้อผ้าตามภาษาผู้หญิง และผมก็เป็นคนที่เชยๆ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับ fashion เลยหลังจากเดินเสร็จ เราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ตลอดเวลานั้นผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพียงแต่ว่าการใช้ชีวิตของผมและเธอช่างๆแตกต่างกัน ผมรู้สึกชอบเธอมากๆ และเธอก็บอกว่าผมก็เป็นคนที่น่ารักคนนึง ผมเริ่มหลงรักเธอครับ

นอกจาก message ที่เคยส่งไปแล้ว ผมก็เริ่มโทรคุยกับเธอมากขึ้น เพื่อทำคะแนนซิครับ กร ผู้น่ารักและแสนดีอย่างนี้จะปล่อยให้คนอื่นมาดูแลได้อย่างไร ผมและเธอได้คุยกันบ่อยแทบจะคุยกันทุกวัน จนช่วงหลังๆ เธอเริ่มมีงานที่เพิ่มมากขึ้น จนไม่มีค่อยมีเวลาที่จะคุยกับผม ผมโทรหาเธอบ่อยครั้งซึ่งเธอก็ไม่ว่าง ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะว่าเวลาที่เธอมีนั้นให้กับงานหมด หรือว่าไม่มีเวลาให้ผมกันแน่ ผมเริ่มสับสนในตัวเอง คิดไตร่ตรองแล้วว่าทำผิดอย่างไร และควรจะทำอะไรดี แต่ก็ไม่เคยได้คุยกับเธอในเรื่องนี้ จากที่เคยได้คุยกันทุกๆ วัน ก็กลายเป็น อาทิตย์ละ 2 ครั้ง และค่อยเป็น อาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรืออาจไม่ได้คุยกันเลย แต่เวลาในแต่ละวันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน ผมคงจะรักเธออย่างที่ไม่สามารถหยุดรักเธอได้อีก แต่ความคิดของผมก็กลับบอกว่า เธอกำลังหมดรักจากผมไป

เวลาผ่านไป 5 เดือน ผมแทบจะไม่ได้โทรหาเธอเลยครับ ผมไม่เคยถามว่าผมและเธอเป็นอะไรกัน และช่วงเวลานั้นก็ผ่านมาจนกระทั่งผมไม่จำเป็นต้องการคำตอบจากเธออีกแล้ว วันนี้ ก็ครบรอบ 1 ปีที่เราได้เจอกัน ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะจำวันนี้ได้รึเปล่า เพียงแต่ว่าผมอยากจะโทรไปคุยในฐานะเพื่อนคนนึงและเชื่อว่าเธอคงจะรับสายผม

ผมโทรหาเธอด้วยใจที่หวังว่าเธอจะรับสาย

กร : สวัสดีค่ะ บิ๊๊ก
บิ๊ก : กร หรอ สบายดีเปล่าครับ
กร : สบายดีค่ะ มีอะไรค่ะ
บิ๊ก : เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้
กร : กร ไม่สะดวกคุยล่ะตอนนี้ ไว้คุยกันใหม่
บิ๊ก : ไว้คุยกันครับ

บทสนทนาที่โครงสร้างเดิม คือจบไว้ตรงที่ไม่ว่างคุย คงจะเป็นคำใบ้บางอย่าง ที่ต้องให้ผมไปแปลความหมาย แต่สำหรับสิ่งเหล่านั้นผมไม่กล่าวโทษว่าเธอไม่สนใจผม แต่ผมรู้ว่าแค่ว่า ผมเคารพการติดสินใจของ กร ว่าเวลาที่เธอมีนั้นควรให้ใคร แค่นั้นผมก็รู้สึกว่า ผมได้มอบความรักที่ผมมีให้แก่ กร


หลังจากที่่ผมวางสายจากกรแล้ว มัวแต่ยิ้มกับตัวเองที่ได้ยินเสียงกรเพื่อนพิเศษคนนี้
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือผมก็ร้องแจ้งผมว่ามี message เข้า เป็น message จาก ปรางค์ ว่า

" ปรางค์มาถึงที่ร้านอาหารแล้วนะค่ะ บิ๊ก อยู่ไหนเอ่ย"

แล้วผมก็เดินออกจากโต๊ะไปต้อนรับเธอเพื่อนคนใหม่ของผม

-ทุกๆ การจากลาของใครบางคน อาจจะเป็นโอกาสที่จะต้อนรับใครคนใหม่เข้ามาในชีวิต-


*เนื้อหาในเรื่องนี้แต่งขึ้นมาทั้งหมดนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)