การเลือกซื้อบ้านหลังแรก My first home

หลังจากที่ทำงานมาหลายปี คุณพ่อคุณแม่ผมก็เริ่มอยากให้ผมมีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง จึงได้มองหาบ้านของตัวเองซึ่งในการหาบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องคำนึงหลายอย่างผมใช้เวลาตลอดเกือบ 1 ปีในการหาบ้าน บ้านบางหลังเราชอบ แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบ บางหลังทุกคนชอบแต่ราคาไม่ใช่ มีหลายปัจจัยมากมาย ผมขอเสนอแนะวิธีการเลือกบ้านให้ถูกใจดังนี้นะครับ


  1. งบประมาณ หากเจอบ้านที่สวยหรูถูกใจ แต่หากเราไม่มีงบประมาณก็จบ แม้ว่าจะกู้ได้แต่เราก็ต้องดูความสามารถการกู้ของตัวเอง สำหรับคนรายได้น้อยหากจะซื้อบ้านต้องกู้แน่นอน ตรวจสอบง่ายๆ คือ ค่าผ่อนต่อเดือน(สำหรับการกู้ 30 ปี) ล้านละ 7,000 บาท อย่างเช่นกู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบ้าน ก็เฉลี่ยจะต้องจ่ายเดือนละ 21,000 บาท ถามตัวเองว่าไหวไหม ถ้าไม่ไหว ก็อาจจะต้องหาบ้านที่มีราคาพอเหมาะกับฐานะเรานะครับ 
  2. ทำเล สินค้าหลายๆอย่างเราดูที่ตัวสินค้าแต่สำหรับบ้านนั้นไม่ใช่ปัจจัยหลักเสมอไป เพราะตัวบ้านนั้นเราสามารถ Renovate เมื่อไหร่ก็ได้(ขอแค่มีเงิน) ทำเลคือแหล่งที่เราจะต้องตัดสินใจ บางครั้งเราต้องการซื้อบ้านเพื่อทำมาค้าขาย การซื้อหมูบ้านก็อาจจะถือว่าไม่เหมาะสม หรือใครชอบความสงบก็ไม่ควรจะไปซื้อบ้านที่ติดถนน เป็นต้น เราต้องดูตัวเองว่าการใช้ชีวิตนั้นสะดวกที่ไหน คุ้นเคยที่ไหน หากซื้อแล้วย้ายไปบ้านใหม่เราและคนที่อยู่ด้วยจะยอมปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตหรือไม่ สำคัญสุดๆเลยละมองหาให้ดี
  3. การคมนาคม หากใครมีรถส่วนตัวแล้วย่อมได้เปรียบในการหาทำเลบ้าน เพราะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แต่สำหรับผมมีคุณพ่อคุณแม่ที่บางครั้งต้องอาศัยรถสาธารณะ ดังนั้นการเข้าซอยลึกๆ ก็มัก จะเป็นปัญหา หรือใครต้องใช้เวลาเดินทางไปทำงานหลายชั่วโมง หากมองหาบ้านใกล้ที่ทำงานก็ช่วยให้ชีวิตนั้นมีเวลาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก่อนซื้อต้องมองการเดินทางด้วยนะครับ
  4. ความพอใจของผู้อาศัย หากคุณตัวคนเดียว หรือหาซื้อบ้านแล้วไม่ได้มีใครมาอยู่ด้วยก็สามารถตัดสินใจเรื่องนี้คนเดียวได้ แต่หากใครก็ตามที่มีคุณพ่อคุณแม่ พี่่น้อง ญาติ แฟนก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้อาศัยว่าบ้านที่ซื้อนั้นเหมาะสม และทุกคนเห็นด้วยหรือไม่ 
  5.  First Impression ของการก้าวเข้าบ้าน แม้ว่าทุกอย่างจะลงตัวแล้วแต่หากเดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่าร้อน ไม่ชอบ หรือมีอะไรผิดปกติ feeling ของเราจะส่งผลออกมาว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่ของเรา เราต้องอาศัยทักษะด้านนี้ หากเดินเข้าบ้านแล้วรู้สึกสงบ สบาย ปลอดโปร่ง รู้สึกใช่ก็แสดงว่าบ้านหลังนี้เหมาะสำหรับเรา แต่ถ้าหากเราเดินเข้าไปแล้วรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่าง พลังงานแอบแฝง แล้วเราเกิดความไม่สบายตัว ไม่สบายใจ ก็ควรจะมองหาบ้านหลังอื่นแทน


หลักการการเลือกหาบ้านให้ถูกของผมก็เป็นประมาณนี้ครับ เขียนมาตั้งนานนี่แค่การเลือกหาบ้านเองนะครับยังไม่ได้ไปหาบ้านจริงจังซักที ต่อไปขอเล่าเรื่องการหาบ้าน ปัจจุบันการหาบ้านนั้นมีช่องทางมากมาย และง่ายดายมากไม่ต้องไปเดินหาก็สามารถค้นหาได้

  1. ค้นหาบ้านผ่านทาง Internet มี web มากมาย ดูราคา ดูแหล่งถูกใจแล้วก็โทรนัดเข้าไปชมบ้าน
  2. ค้นหาจากป้ายที่แปะตามจุดต่างๆ ของเสียคือข้อมูลจะค่อนข้างน้อย แต่ข้อดีเราจะรู้วิธีการเดินทางเป็นสภาพบ้านตามความจริง
  3. คนแนะนำ บางครั้งเพื่อนของเพื่อนอาจจะมีแผนการขายสินทรัพย์ก็บอกต่อๆ กันแล้วถ้าเราสนใจก็ลองไปดู ข้อดีคือจะพูดคุยได้ง่าย อาจจะได้ราคาพิเศษ
หลังจากหาบ้านแล้วนัดชมแล้วก็อยากจะบอกว่าการโทรแล้วนัดไปชมบ้านก็อาจจะมีนายหน้าที่คอยช่วยเหลือเรา ซึ่งแน่นอนว่าเค้าต้องได้ค่านายหน้า แต่ก็มีดีตรงที่นายหน้าจะมีบ้านแนะนำมาก สามารถเข้าชมได้หลายๆหลังพร้อมกัน ผมก็เจอนายหน้าเช่นกันจึงได้มีโอกาสดูบ้านหลายๆหลัง และยังช่วยต่อรองราคาอีก (แต่ก็ราคาก็ย่อมสูงกว่าที่จะซื้อกับเจ้าของโดยตรง) การซื้อบ้านผ่านนายหน้านั้นหากเราถูกใจแล้วจะไปแอบติดต่กับผู้ขายโดยตรงได้ไหม ผมก็พึ่งได้ความรู้ว่าไม่ได้ หากเจ้าของขายได้ก็ต้องจ่ายให้นายหน้าเช่นกัน เราก็ทำอะไรก็โปร่งใสดีกว่า นายหน้าแนะนำเราได้สิ่งดีๆ ก็ควรจะสนับสนุนเขานะครับ 

เดี๋ยวเทคนิคต่างๆ จะมีเขียนเพิ่มครับ

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)