บันทึกวิ่งมาราธอน(มือใหม่)


ผมยังจำได้ครั้งแรกที่ต้องวิ่ง 800 เมตรภายใน 3 นาที 15 วินาที หากวิ่งไม่ผ่านจะไม่ได้เรียนรด. ครั้งนั้นเป็นครั้งที่ผมวิ่งแล้วเหนื่อยที่สุด ผมจำได้เลยว่าวิ่งเข้าเส้นชัยตอน 3 นาที 10 วินาที หลังจากเข้าเส้นชัยแล้วใช้เวลาพัก 10 นาทีกว่าจะหายเหนื่อย หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ฝึกวิ่งอีกเลย

จนกระทั่งเพื่อนที่บริษัทชวนผมวิ่งมาราธอนระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งผมก็ลองสมัครไปเพื่อจะได้เสื้อ ได้เหรียญ แต่หากจะเดินนั้นก็ดูจะไม่สมศักดิ์ศรีเลยต้องหัดวิ่ง

หลังจากที่ได้ฝึกวิ่งมาซักระยะนึง ก็รู้สึกเริ่มสนุกจนต้องวิ่งทุกวันครับเพื่อให้วิ่งให้ได้ในวันแข่ง เลยขอแนะนำวิธีการง่ายๆที่จะทำให้เรานั้นสามารถวิ่งได้นานขึ้น

แนะนำอุปกรณ์

รองเท้า ผมเคยประหยัดกับเรื่องไม่เข้าเรื่องคือใช้รองเท้าเดินเที่ยวมาวิ่ง วิ่งได้ไม่นานก็ปวดขา แล้วก็ต้องล้มเลิก ก็เลยต้องเก็บตังไปซื้อซะเลย ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป หากงบน้อยก็ดูยี่ห้อ power ของบาจาก็ได้ หรือซื้อเป็นรองเท้าวิ่งมียี่ห้อดังช่วงลดราคาก็ได้ บอกเลยว่าทำให้ปวดขาน้อย ใครจะวิ่งซื้อรองเท้าวิ่งครับ นอกจากใช้วิ่งแล้วยังใส่เที่ยวได้ด้วย


เมื่อได้รองเท้าวิ่งแล้ว หากใครกลัววิ่งแล้วเบื่อ ก็ขอให้ลองใช้ตัวนี้ครับช่วยได้

Ipod Shuffle หรือ MP3 ซึ่งอาจจะไม่ต้องยี่ห้อนี้ก็ได้ใช้ยี่ห้องอื่น หรือใช้มือถือก็ได้ เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จะทำให้เราเพลิดเพลินในการวิ่งมากขึ้น ใส่เพลงที่เราโปรดปรานเข้าไป สาเหตุที่ผมใช้ ipod shuffle คือเบา สะดวก ไม่ต้องถือ เวลาวิ่งแล้วเหงื่อแตกตัวเปียก ipod ที่หนีบไว้ก็ไม่เปียก



นอกจากอุปกรณ์แล้ว ในการวิ่งแต่ละครั้งควรมีการตั้งเป้าหมายด้วย เพราะหากไม่ตั้งเป้าหมายวิ่งแล้วเราก็จะล้มเลิก หรือขี้เกียจได้
ผมตั้งเป้าหมายแบบนี้
1. เริ่มวิ่งจนเหนื่อยไม่ไหวก่อน ในครั้งแรกนั้นเราจะวิ่งได้น้อยมากตัวอย่างของผม วิ่งได้ 3 รอบ(1.5 กิโลเมตร)ก็ไม่ไหวแล้ว จากนั้นผมตั้งเลยว่าครั้งต่อไปนั้นจะต้องวิ่งได้มากกว่า 3 รอบหรือขึ้นต่ำ 3 รอบ
2. เพิ่มรอบ ค่อยๆเพิ่มๆผมวิ่งได้สามรอบแล้วสองวันแล้วก็ตั้งใจจะวิ่งเป็นสี่รอบก็ตั้งใจวิ่งเลยครับ แม้จะยากหน่อยแต่หากวิ่งบ่อยๆร่างกายเราจะปรับตัวเอง แล้วมันก็จะวิ่งได้เอง
3. นับรอบถอยหลัง เช่น ผมต้องการวิ่ง 9 รอบ เราก็วิ่งเลยโดยค่อยๆ นับถอยหลังน้อยลงเรื่อย เชื่อไหมครับว่าตัวเลขที่น้อยลงนั้น มันทำให้เราตั้งใจวิ่งมากขึ้น

สาเหตุที่วิ่งไม่ตามเป้าหมาย ผมขอแยกออกเป็น 2 ข้อหลัก
1. เกิดจากร่างกายไม่ไหว สาเหตุนี้เราก็เข้าใจเพราะความแข็งแรงต้องค่อยๆพัฒนาเร่งรีบไม่ได้ พักแล้วค่อยเริ่มใหม่ เชื่อผมครับ ร่างกายปรับได้เอง วิ่งครั้งต่อไปจะดีขึ้นเรื่อยๆ
2.เกิดจากจิตใจ เกิดจากความขี้เกียจ ผมประสบโดยตรงเลยว่าการวิ่งนั้นนอกจากจะต้องใช้กำลังในการวิ่งแล้วยังต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่นไม่อย่างนั้นสมองเราจะมาหลอกว่าเลิกเถอเลิกเถอะ ดังนั้นเราจะต้องข่มใจให้ได้ วิ่งผ่านไปให้ได้

ก่อนวิ่งยืดเส้นสายก่อน เพื่อที่วิ่งแล้วจะได้ไม่บาดเจ็บมาก วันรุ่งขึ้นก็จะวิ่งได้อีกได้


วิ่งให้ถูกวิธี ก็จะทำให้เราวิ่งได้ดีขึ้นครับ


ขอให้ทุกท่านได้มีโอกาสวิ่งกันดูนะครับ แล้วเจอกันงาน
Bangkok marathon  16/11/2014

Standard Chartered Bangkok Marathon 2014

นักวิ่งมือใหม่

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)