ตั้งวงเล่า กับ อาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ

ไม่แปลกที่การเป็นพนักงานบริษัทแห่งนึงจะถูกส่งไปอบรมความรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะใช้ในงานวิชาชีพ ความรู้เรื่องทั่วๆไป ความรู้เรื่องความปลอดภัย แต่คราวนี้ผมได้มีโอกาสมาอบรมเรียนรู้กับอาจารย์ที่มีดีกรีขั้นสูง อาจารย์ที่เคยทำงานที่องค์การนาซ่า แค่ตำแหน่งนี้ก็การันตีถึงคุณภาพได้เลย 

อาจารย์ที่มาสอนคนใน่ฝ่ายผมก็คือ อาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ 

บรรยากาศในห้องอบรมนั่งพื้นครับ แบบสบายๆ โดยใช้ชื่อการอบรมว่า " ตั้งวงเล่า " ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วอาจารย์ก็แนะนำตัวเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็เริ่มสอนเลย แต่ไม่ได้สอนแบบมีตำราอะไรเลยนะ เป็นการพูดๆ เล่าให้ฟัง แต่หลายๆ ประเด็นก็ตรงมาก ผมว่าเหมาะกับการที่จะพัฒนาบริษัท


ประเด็นแรกเลยครับ บริษัทที่ทำงานอยู่ผมจะอยู่ไม่รอด เฮ้ย!! เป็นอาจารย์ทำไมมาพูดแบบนี้ จ้างมาสอนแต่กลับมาแช่งนะงั้น แต่อาจารย์ก็บอกว่าวัฒนธรรมองค์กรนั้นเป็นตัวแสดงให้เห็นถึงการอยู่รอดได้ อาจารย์บอกว่าในบริษัทใหญ่มักให้ความใส่ใจกับคนที่มีการศึกษาสูง โดยเฉพาะจบมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ จ้างวิศวกรมาดูแลเครื่องจักร แต่วิศวกรที่จ้างมานั้น ทำตัวเป็นวิศวกร catalogue เป็นยังไงหรอ ก็เปิดcatalogue ที่ทางSupplier เอามาขาย แล้วก็ทำ powerpoint เสนอหัวหน้างานแล้วก็จ้างมาsupplier มาทำให้ จากนั้นก็นำเสนอว่าเป็นผลงาน ซึ่งจริงๆ แล้วถามว่าทำเองไม่ ไม่ได้ทำเองเลยเกือบจะไม่ได้คิดอะไรเลยซ้ำ ส่วน MacGyver (นายช่างๆที่มีประสบการณ์ที่ดูแลเครื่องตัวจริง ซ่อมเอง ปรับเอง รู้จักเครื่องเป็นอย่างดี ) บริษัทก็กลับไม่ใส่ใจ ปล่อยเค้าไว้ ไม่ดูแลวิศกรที่เข้ามาทำงานไม่ทันเท่าไหร่ก็ได้เงินเดือนเยอะกว่าคนพวกนั้น แล้วนายช่างจะรู้สึกอย่างไร ก็พากันย้ายออก ซึ่งปัจจุบันบริษัทหลายๆ บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้  นอกจากอาจารย์จะพูดแล้ว อาจารย์ก็ถามว่าวิศวกรในห้องนี้เลยทำ Thermocouple มั้ย ซึ่งก็จริงครับ ไม่มีใครเคยทำ แต่อาจารย์ก็บอกว่าแม้จะรู้ทฤษฎี แต่ถ้าไม่มีผู้ที่ทำได้บริษัทก็จะอยู่ไม่รอดเอา เราควรจะดูแลคนเหล่านั้นเพราะว่าบริษัทเติบโตมาได้ก็เพราะคนกลุ่มนั้น

ประเด็นที่สอง คือเรื่องการสื่อสารในองค์กร อาจารย์พูดว่าการพูดคุยภายในเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเข้าใจซึ่งกันและกัน จะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่กลุ่มผู้บริหารก็ชอบที่จะจ้างบริษัท consult ซึ่งต้องจ้างมาเป็นร้อยๆล้าน มาประเมินโน้น นี่ นั้น สุดท้ายก็ได้กระดาษสรุปเนื้อหาออกมาแล้วก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย อาจารย์บอกว่าผู้บริหารควรเปลี่ยนวิสัยทัศน์ อย่างมัวแต่ไปเชื่อบริษัท consult ให้มากนัก ลงมาคุย มาสอบถามกันเลย จะได้รู้ว่าปัญหาคืออะไร แล้วจะได้แก้ไข ปรับปรุงกันไป

ประเด็นที่สาม การประชุมสื่อสารกัน อาจารย์เปิด Clip ให้ดู เป็นการทำงานของฝรั่งบริษัทแห่งนึงซึ่งจะเป็นการแบ่งกลุ่มกันออกแบบรถเข็นใน Supermarket จากนั้นเมื่อทุกกลุ่มลงมือออกแบบแล้วก็จะนำแบบที่ได้มาไปแปะบอร์ด จากนั้นก็ให้ทุกคนเดินดู แล้วชอบอันไหนก็เขียน Post it ไปแปะไว้ อยากเขียนแนะนำอะไรได้ เรียกได้ว่าเป็นการให้นำแนะนำซึ่งกันและกัน และไม่มีการดูถูกความคิดเห็นใด ซึ่งผิดกับการประชุมของคนไทย (พูดรวมๆ ไม่ได้เจาะจงนะครับ) ซึ่งพอใครพูดแล้วก็จะมีคนคอยทักท้วง แถมยังโดนด่าอีก แล้วก็ยังมีนินทาลับหลัง โอ้ยจริงเลยเนี้ย การประชุมแบบนี้ใครจะชอบ ขออยู่เงียบดีกว่า แถมเงียบก็ยังโดนด่าอีกว่าไม่ออกความเห็นเห็น จากประชุมแล้วไม่ได้อะไร เสียเวลา ยังสร้างความบาดหมางในองค์กรอีก

จริงๆแล้วมีประเด็นอื่นๆ อีกครับ แต่ผมจำได้หลักๆเท่านี้ ผมเป็นคนนึงที่อาจจะไม่ได้รักองค์กรมากมายนัก แต่ก็อยากที่ให้องค์กรอยู่รอดเพราะก็ยังไม่อยากจะหางานใหม่(แต่ก็รักองค์กรนะ ไม่งั้นไม่เข้ามาทำหรอก ) และก็เชื่อว่านอกจากผมแล้ว คนอื่นๆในองค์กรก็ยังคงช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี่ที่สุดเพื่อที่จะให้องค์ของเราอยู่ต่อไป

บทความนี้มีสาระเยอะไปรึเปล่าเนี้ย เอานะนานๆ ทีครับ ^_^

face2cu

ความคิดเห็น

  1. ตรงใตสุดๆ เลยคร้าบ เราว่าหลายๆ คนในองค์กรก็สัมผัสได้แหละ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)