Movie | prime(2005)

Picture from http://thisdistractedglobe.com/2006/07/28/prime-2005/

อาศัยช่วงหยุดยาวหาซื้อหนังมาดูเล่นซะเรื่องนึงซึ่งตอนแรกก็กะว่าจะซื้อเรื่องอื่นแต่ อยู่ๆก็เห็นเรื่องนี้ก็เลยหยิบขึ้นมาอ่านดูว่าเกี่ยวกับอะไร ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังแนวตลกๆ เบาสมองดู กุ๊กกิ๊กแต่จริงๆ แต่แล้วผมมองเห็นมุมมองอะไรบางอย่างซึ่งไม่รู้ว่าผู้กำกับนั้นตั้งใจให้ผนเห็นรึเปล่า

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าถ้าคุณยังไม่ดูเรื่องนี้แล้วคิดจะดูโดยไม่อยากรู้เรื่องราวตอนจบ อยากจะบอกว่าให้หยุดอ่านก่อนนะครับ เพราะว่าผมจะเล่าคร่าวจนถึงตอนจบเลย ที่ผมขอเล่าเพราะว่าบางคนอาจจะหามาดูไม่ได้ หรืออยากรู้เรื่องราวก่อน




เนื้อเรื่อง
ราฟี่ (นางเอก) หญิงวัย 37 ปีที่พึ่งถูกสามีทิ้งไปปรึกษากับคุณหมอจิตแพทย์คู่ใจซึ่งทางคุณหมอก็พยายามช่วยเหลือเธอเต็มที่ จนกระทั้งราฟี่ไปดูภาพยนตร์และได้พบเด็กหนุ่มอายุ 23 ปี แล้วหนุ่มคนนั้นก็ปิ้งสาวรุ่นใหญ่ โทรไปหาตามจีบสารพัด จนกระทั้งเค้าทั้งสองเริ่มคบกัน ราฟี่ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนั้นให้จิตแพทย์อย่างละเอียดซึ่งทางจิตแพทย์ก็เชียร์เต็มที่และบอกว่าราฟี่ว่า อายุั้นั้นไม่เป็นอุปสรรค แต่ความจริงแล้วเด็กหนุ่มอายุ 23 ปีนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนกลับเป็นลูกชายของจิตแพทย์ ซึ่งลูกชายที่รักของจิตแพทย์ก็ได้ปรึกษากับแม่เค้า และเค้าบอกกับลูกว่า เค้ายอมรับไม่ได้กับการที่ลูกชายจะคบผู้หญิงที่อายุเยอะกว่า แต่ตอนนั้นจิตแพทย์ยังไม่รู้มาก่อนว่าสองคนนั้นคบกันอยู่  ราฟี่ได้เล่าเรื่องต่างๆมากมายเกี่ยวกับเธอและเด็กคนนั้นจนกระทั้งจิตแพทย์เริ่มรู้สึกว่าทำไมคนที่ราฟี่พูดนั้นทำไมคล้ายๆ กับลูกตัวเองเลยได้สอบถาม งาน ที่อยู่ ชื่อ ซึ่งเธอก็ตกใจว่าเป็นลูกชายเธอจริงๆ จิตแพทย์นั้นก็พยายามบอกกับลูกตัวเองให้เลิกคบ และยังคงให้คำปรึกษากับราฟี่ต่อไปโดยไม่บอกว่าชายคนนั้นคือลูกของเธอ ซึ่งจิตแพทย์ก็พยายามทำตัวเป็นกลาง และแล้วลูกชายของจิตแพทย์ก็ได้ออกจากบ้านไปซึ่งตอนนั้นเค้ายังไม่มีอาชีิพการงานก็เลยไปพักอยู่กับบ้านราฟี่ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความที่อายุน้อย เด็กคนนั้นทำข้าวของเลอะเทอะ ไม่ทำงาน มังแต่เล่นเกม ราฟี่ก็เริ่มรู้สึกว่าเด็กยังมีความเป็นเด็ก และยังต้องเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ราฟี่พยายามสอนสิ่งต่างๆ กับเด็กแต่เด็กคนนี้ก็ยังไม่เข้าใจและยังไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ ราฟี่จึงบอกว่าเราควรจะแยกทางกันเพราะด้วยความไม่เหมาะสมหลายๆ อย่าง ซึ่งทั้งคู่ก็ต่างรักกันแต่ก็แยกทางกัน เด็กคนนั้นย้ายออกจากบ้านราฟี่และไปเช่าห้องพักอยู่และมีคนมาติดต่อว่าจะเปิด Gallery ให้ซึ่งทำให้เด็กคนนั้นได้เรียนรู้และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เด็กคนนั้นไปหาราฟี่อีกครั้งและได้ขอให้เธอโอกาสกับเค้า เค้าพร้อมที่จะเรียนรู้ และจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งราฟี่ก็ตกลงกลับมาคบกัน และแล้วก็ถึงเวลาที่เด็กคนนั้นจะพาราฟี่ไปเจอแม่ของเด็กคนนั้นซึ่งเป็นจิตแพทย์ส่วนตัวนั้นเอง ราฟี่ไม่ได้ไปพบจิตแพทย์หลังจิตแพทย์บอกว่าเด็กคนนั้นคือ ลูกชายเค้า ซึ่งนี่ก็ผ่านมานานมาแล้ว ราฟี่รวบรวมความกล้าที่จะไปพบครอบครัวเด็กคนนั้นปรากฏว่าราฟี่ได้รับการต้อนรับจากครอบครัวเป็นอย่างดีและ จิตแพทย์ก็ยอมรับว่า ราฟี่นั้นทำให้ลูกชายเค้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีจริงๆ จิตแพทย์จึงไม่ขอกีดกันราฟี่กับลูกชายเธออีกต่อไป และจิตแพทย์ก็ได้บอกกับลูกชายตัวเองว่า สิ่งที่ราฟี่ต้องการมาเสมอก็คือการ " มีลูก " ซึ่งแน่นอนว่าเด็กอายุ 23 ปีนั้นอาจจะค่อนข้างเร็วจนเกินไปสำหรับเรื่องนี้ แต่เค้าก็ได้คุยกับราฟี่และเสนอว่าเค้าก็พร้อมที่จะมีลูก แต่ราฟี่กลับปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเร็วเกินไปสำหรับเด็กอายุ 23 ปีที่พึ่งจบ และกำลังจะเริ่มอาชีพเป็นของตัวเอง เธอไม่อยากที่จะให้เด็กคนนี้ถูกขัดขวางโอกาสต่างๆที่เด็กคนนี้กำลังเจอ เธอเลยขอให้เธอแยกทางอีกครั้งเพื่อที่จะให้ทั้งสองคนนั้นมีโอกาสพบกับคนใหม่ที่เหมาะสมและคู่ควรมากกว่านี้ ซึ่งเด็กคนนั้นก็ยอม ซึ่งก่อนเรื่องจะจบนั้น เด็กคนนั้นกับเพื่อนได้ไปกินที่ร้านอาหารร้านนึง แล้วเดินออกมา แต่ปรากฎว่าเด็กคนนั้นลืมหมวกเลยแวะเข้าไปที่ร้าน เมื่อกลับมาก็พบว่าราฟีกำลังกินข้าวอยู่ เด็กเลยรีบออกมาข้างนอกแล้วแอบมองเข้าไปข้างใน แต่แล้วอยู่ๆ ราฟี่ก็หันมาและพบเด็ก ราฟี่ก็ยิ้มทักทายด้วยความรักพร้อมทั้งโบกมือ และก็ปล่อยให้เด็กคนนั้นมีชีวิตที่ควรจะก้าวเดินทางต่อไป . . . จบ

ความคิดของผมแล้วแม้เค้าจะเขียนว่ามันเป็น comedy แต่ผมก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ค่อยตลกมากมายซะเท่าไหร่ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะสนุกกว่านี้ แต่สิ่งในเนื้อเรื่องก็มีการสอดแทรกแง่คิดต่างๆ ซึ่งแม้เรื่องนี้จะจบอย่างไม่ Happy ending ก็ตามแต่ผมก็รู้สึกประทับใจ

อย่างเช่น
จิตแพทย์ บอกกับลูกชายว่า "บางครั้งความรักอย่างเดียวก็ไม่สามารถที่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างได้"
ซึ่งก็ถูกต้องเลย เพราะอย่างราฟี่แม้จะรักเด็กคนนั้นมากเพียงไร แต่ด้วยอายุและสิ่งๆต่าง ไม่ว่าจะมองที่ราฟี่ตัวเอง หรือมองที่ตัวเด็ก ความรักอย่างเดียวอาจทำให้ทั้งคู่นั้นไม่สามารถที่จะอยู่กันได้อย่างเหมาะสม -ราฟี่ต้องการผู้ชายที่สามารถดูและเธอได้ และพร้อมที่จะมีลูก
-เด็กคนนั้นยังคงเรียนรู้สิ่งต่างจากประสบการณ์ชีิวิตการทำงาน

ทำให้รู้สึกได้ว่าบางครั้งการที่คนทั้งสองคนไม่ได้คบกัน อาจจะไม่ใช่เพราะเค้าไม่ได้รักกัน แต่เป็นเพราะความไม่เหมาะสมกับบางอย่าง ดังนั้นเมื่อมีความรักหากมองเห็นถึงความเป็นไปไม่ได้ หรือไม่เหมาะสมเราก็ควรที่จะหยุดที่จะรักนั้น เพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว รักอาจจะหมดคุณค่าไป

‎"หากรักอยู่บนทางที่ไม่เหมาะสม จงหยุดเพื่อรักษาให้สวยงามไว้ และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า"