ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี ภาคปฏิบัติ

ผมมักได้ยินเสมอเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ว่าการทานอาหารเสริมจะทำให้สุขภาพดี ลดน้ำหนัก ดูดี แต่ผมมีความเชื่อที่แตกต่างกันคือการหยุดกินจะทำให้สุขภาพดีมากกว่า เพราะปัจจุบันอาหารนั้นเป็นเหมือนสินค้าอุตสาตกรรมที่มีกระบวนการผลิต ปรุงแต่งมากมาย โดยเฉพาะสินค้าในห้างสรรพสินค้า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ร่างกายคนเราในปัจจุบันนั้นจะไม่แข็งแรงเหมือนคนสมัยก่อน


ขอเข้าสู่หนังสือเลยดีกว่า หนังสือที่มีชื่อว่า 
ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี เขียนโดยน.พ. โยะชิโนะริ นะงุโมะ

ในหนังสือเล่าว่าในสมัยก่อนคนนั้นยังไม่สามารถหาอาหารทานได้ทั้งสามมื้อ ทานเพียงแค่ 1-2 มื้อ แต่คนสมัยก่อนนั้นกลับมีชีวิตรอดจนถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันแหล่งกันดารกลับมาประชากรเพิ่มขึ้นมากกว่าประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนเรื่องการอยู่รอด ซึ่งหากความหิวนั้นทำให้คนสูญพันธุ์นั้นคงจะไม่มีประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ ในขณะเดียวกันความอุดมสมบูรณ์นั้นกลับทำให้ร่างกายเริ่มปรับเปลี่ยนเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานเพื่อปรับตัวให้สามารถเข้ากับอาหารที่มีนำตาลสูงได้ เบาหวานทำหน้าที่ตัดอวัยวะที่ไม่จำเป็นในการออกล่า เช่นเบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงขา(ตัดขา) เป็นต้น

จากนายแพทย์ที่เคยใช้ชีวิตในเมืองต้องพบว่าตัวเองมีร่างกายไม่แข็งแรงจึงได้เดินทางกลับบ้านเพื่อดูแลโรงพยาบาลของตัวเอง และได้ปรับเปลี่ยนชีวิตใหม่โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และอย่างหนักแต่ก็พบว่าร่างกายก็ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดี จึงได้เริ่มสนใจเรื่องการกินแทน 

ทานอาหารวันละมื้อ 
ในหนังสือกล่าวไว้ว่า มื้อเช้าและมื้อเที่ยงควรทานให้น้อย หากหิวก็สามารถทานคุกกี้ชิ้นเล็กๆได้ เพื่อไม่ให้ปวดท้อง แต่ก็ยังคงความหิวไว้เล็กๆ สาเหตุที่ให้ท้องหิวนั้น จะทำให้ยีนความอดอยาก ความอยู่รอดออกมาทำงานซ่อมแซมร่างกายเรา ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง ความอ่อนเยาว์ซึ่งในภาวะการกินอิ่มทุกๆมื้อนั้นจะทำให้ยีนชนิดเหล่านี้ไม่ออกมาทำหน้าที่ (ในหนังสือมีข้อมูลครับ) ส่วนตอนเย็นนั้นให้ทานได้ปกติ แต่มีข้อแม้ว่าต้องลดปริมาณลงจาก 100 % ให้เหลือเพียง 60 % หรือใช้เป็นจานข้าวขนาดเล็กกว่าปกติ ตักอาหารได้เต็มที่ น้ำซุปหนึ่งถ้วย และมีข้อแม้ว่าห้ามเติม กินให้หมดจานแล้วหยุดทันที

การพักผ่อน
ในช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสองนั้นควรนอนในห้องที่มืดสนิทจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูดีที่สุด ไม่ควรนอนช่วงกลางวันเกิน 30 นาที จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้


หลักผมสรุปที่จะนำมาใช้งานดังสองเรื่องครับ ส่วนเรื่องอื่นๆสามารถลองอ่านได้ครับ หนังสือราคาไม่แพงหากได้อ่าน ได้ความรู้มากมายแน่ๆครับ

ส่วนที่ผมนำมาประยุกต์กับชีวิตประจำวัน
1. อาหารเช้านั้นต้องทานให้อิ่ม ตามความเชื่อของผมในแนว ดังนั้นผมยังคงทานทุกมื้อปกติแต่ลดอาหารลง ยังไม่ได้ทำตามหนังสือนะ
2. แม้จะกินน้อยแต่สารอาหารวิตามินควรจะต้องครบ ดังนั้นเน้นผัก ปลาเป็นหลัก (จากที่คนเขียนเล่ามา) ผมจึงเน้นด้านผัก ธัญพืช (ผมทานมังสวิรัติ) รวมไปถึงการปรุงรสชาติไม่ให้เข้มจนเกินไป คล้ายๆกับการกินอาหารคลีนนั้นเอง
3. ลดอาหารขนมระหว่างมื้อ จะทานเฉพาะตอนหิวมากๆ เท่านั้น และกินจำกัดปริมาณ กินแค่คำเดียวพอ
4. แต่ละมื้อลดอาหารลงเหลือ 50 % สัญญาจะไม่ตักเพิ่ม (บางครั้งอร่อยก็แอบตักอีก)
5.เรื่องการนอน นอนไม่เกินสี่ทุ่ม แม้จะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็ตาม พยายามนอนให้เร็วเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน (ตามที่หนังสือบอก)
6.ออกกำลังกายแบบไม่หนักมาก อย่างแต่ก่อนอาจจะวิ่งอย่างต่อเนื่องก็มีการเดินสลับวิ่งบ้าง เพราะการออกกำลังกายอย่างหนักอาจจะทำให้ร่างกายนั้นบอบช้ำมากกว่า

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
1. กระเพาะปรับตัวตามการกิน ในสามวันแรก ยอมรับว่าค่อนข้างหิว เมื่อลดอาหารลง(ทุกมื้อ)พอเข้าวันที่สี่ ห้า ร่างกายปรับตัวอิ่มตามจำนวนที่เราทาน อยู่ได้อย่างสบาย
2. น้ำหนักลดลง จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากได้น้ำหนักผมลดลงครับ แต่ในหนังสือบอกว่าน้ำหนักเราจะลดลงไปเรื่อยจนถึงจุดสมดุลเอง
3. การขับถ่ายลดลง (ทานน้อยก็ขับถ่ายน้อย)
4. เรื่องสุขภาพดียังต้องพิสูจน์ต่อไปครับ เพราะพึ่งทานไปสองอาทิตย์เอง

ผลข้างเคียงที่ได้
1. ร่างกายไม่มีความอ่อนล้า
2. หน้าท้องแบนราบมาก 
3.ไม่มองหาร้านบุฟเฟ่อีกต่อไป เพราะเราจะทานน้อยลงอิ่มเร็วขึ้น ประหยัดเงินในกระเป๋าตังได้
4.มีนิสัยเลือกกินมากขึ้น เพราะเมื่อลดปริมาณอาหารแล้ว อาหารทุกคำนั้นจะเป็นอาหารที่เข้าไปเพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย หากกินไม่เลือกจะขาดสารอาหารเอาได้ แนะนำว่าควรศึกษาอาหารที่ควรกินก่อนทำตามจะดีมาก

สุดท้ายนี้หากมีอะไร update จะมาเขียนเพิ่มครับ
ส่วนใครที่สนใจหนังสือเล่มนี้ลองหาอ่าน และปรับเข้ากับชีวิตตามแนวทางของตัวเอง
แต่ละคนมีวิธีการที่ไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าผลลัพธ์นั้นคือ การได้สุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นครับ

มีอะไรสงสัย comment คุยกันครับ

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)