The Elephant On The Bike - ครูสาวอนุบาล กะ นายสัตวบาลเจี๋ยมเจี้ยม

ขอกล่าวต้อนรับบทความแรกของเดือนตุลาคม กับหนังเรื่องหนึ่งซึ่งไม่เคยนึกจะสนใจดู แต่พออ่าน Review คร่าวๆ แล้วก็อยากดูความโรแมนติกของหนัง แต่สิ่งที่คาดหวังไว้กลับไม่ตรงกับ review เลย สิ่งที่ได้รับกลับเปี่ยมล้นจนเกิดอาการที่อยากจะเขียน blog ขึ้นมาทันที


มีดู online ด้วยครับ ลองเข้า web นี้ครับ
http://www.nazitv.com/bbs/entertain.php?rid=1250

หากท่านที่คิดจะดูหนังเรื่องนี้แนะนำว่าอย่าพึ่งอ่านบทความด้านล่างนี้ เพราะอาจจะทำให้หนังไม่สนุกได้
ขอให้ท่านลองดูก่อน ด้านล่างนี้ผมจะไมได้เล่ารายละเอียดแต่จะเป็นการวิเคราะห์สิ่งที่ผมได้พบจากหนังเรื่องนี้












หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความรักในด้านต่างๆ เริ่มแรกเลยคือ

ความรักหนุ่มสาว
ความรักของพระเอกและคนรักของพระเอก มือขวาของพระเอกไม่สามารถใช้การได้ เลยทำให้พ่อแม่ัฝั่งคนรักของพระเอกนั้นต่อต้านมาตลอด และในขณะเดียวกันปมด้อยของพระเอกนั้นก็ทำให้พระเอกนั้นเป็นคนเก็บตัว และมักจะเฉยชาต่อสิ่งรอบข้าง ผมรู้สึกได้ถึงความพยายามของคนรักของพระเอกที่พยายามจะให้พ่อแม่ของเธอยอมรับในตัวของพระเอก แต่พยายามเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ ต่อสิ่งเหล่านี้ และพระเอกก็ไม่เคยที่จะปรับตัวยอมรับ เข้าหาพ่อแม่ของเธอ จึงทำให้คนรักของพระเอกนั้นต้องแยกทางในที่สุด แม้จะรักกัน แต่ก็ไม่สามารถจะประคับประคองได้

ความรักในความเป็นพี่น้อง 
ในช่วงวัยเด็กนั้นพระเอกจะไม่ชอบไปโรงเรียนและมักจะโดดเรียน แต่พี่สาวของเธอก็ยอมที่จะขับจักรยานไปส่งพระเอกเข้าเรียนก่อนที่ตัวเองนั้นจะไปโรงเรียนสายและโดนอาจารย์ตี และในช่วงตอนที่พระเอกนั้นกำลังจะไปสัมภาษณ์งานพี่สาวของเค้าก็ได้ซื้อเนคไทมาให้เพื่อที่จะทำให้พระเอกนั้นมีบุคคลิกที่ดีในขณะสมัครงาน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของพี่สาวกับพระเอก

ความรักของเพื่อน 
ในหนังเรื่องนี้มักจะตัดฉากไปมาระหว่างปัจจุบัน กับอดีตซึ่งทำให้รู้ว่าพระเอกนั้นโตมาอย่างไร ในวัยเด็กนั้นพระเอกมีเพื่อนสนิทผู้หญิงคนนึงซึ่งผมคาดว่าเธอเป็นใบ้ (เพราะไม่เคยเห็นเธอพูดเลย)มีครั้งนึงพระเอกได้ซ่อมจักรยานให้แก่เธอและนำมาคืนเธอซึ่งเธอก็ขอบคุณมันและบอกให้พระเอกขี่มัน แต่เนื่องจากพระเอกนั้นไม่เคยฝึกขี่จักรมาก่อนอาจะเป็นด้วยมือด้านขวาของเค้านั้นเสียไป แต่เพื่อนคนนี้ก็บังคับและสอนให้พระเอกกล้าที่จะขี่จักรยานเพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และนั้นแสดงให้เห็นถึงความรักของเพื่อนที่หวังดีอยากให้พระเอกนั้นมีสามารถใช้ชีวิตที่ไม่แตกต่างจากคนอื่นได้

ความรักระหว่างพ่อกับแม่
ในหนังหลายๆ เรื่องมักจะแสดงให้เห็นความรักของแม่กับลูก หรือพ่อกับลูก ส่วนพ่อกับแม่กลับไม่ได้เป็นจุดที่สำคัญแต่ในหนังเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่าความรักนั้นไม่ขึ้นกับอายุทั้งสิ้น (สิ่งนี้ทำให้ผมถึงกำลังน้ำตาไหลขณะชมเลย) เดิมพ่อพระเอกนั้นเป็นคนซ่อมจักรยานและทำงานเป็นคนขับรถเมล์ ส่วนแม่พระเอก(น่าจะเป็นแม่บ้านครับ) มีครั้งนึงแม่พระเอกบอกกับพ่อพระเอกว่า แก่ปูนนี้แล้วยังจะขับรถเมล์อีก แต่พ่อของพระเอกก็ตอบกลับว่าก็เค้าอยากขับและมีความสุขที่จะทำมัน และเธอก็ควรจะหัดขับบ้างนะ จะได้ไปไหนมาไหนด้วยตัวเองบ้าง ซึ่งแม่ของพระเอกก็ไม่เคยใส่ใจในสิ่งนี้ แต่เมื่อพ่อพระเอกอายุเพิ่มมากขึ้น และป่วยจนไม่สามารถขับรถได้ แม้แต่เดินก็ยังหอบเหนื่อย แม่พระเอกก็เริ่มหัดขับแม้จะรถดับบ่อย หรือขับแล้วมีปัญหาเธอก็ยังคงฝึกต่อ จนในวันที่พ่อพระเอกเสียเสียไป ในวันไปส่งศพ พระเอกได้ถือรูปของพ่อและขึ้นรถ แต่แล้วแม่ของพระเอกก็เดินมาที่หน้าต่างและหยิบรูปพ่อขึ้นมา ก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปที่รถอีกคันและวางรูปของพ่อพระเอกไว้ที่ข้างๆ และขับไปส่งศพพ่อของพระเอกด้วยตัวเอง ในขณะที่ขับรถนั้นก็ได้บอกกับพ่อพระเอกว่าเธอนั้นสามารถขับรถได้แล้วนะ เพียงแต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีเธอนั่งไปข้างๆฉัน แลแม่พระเอกก็ร้องไห้ระหว่างขับ

ความรักระหว่างพ่อกับลูก (มีเยอะมากเลยครับขอเป็นหัวข้อละกัน)
ในวัยเด็กนั้นพระเอกค่อนข้างจะเป็นเด็กเก็บตัว ซึ่งตัวพ่อของพระเอกนั้นก็รู้มาตลอดว่าสิ่งที่ทำให้เป็นพระเอกเป็นแบบนี้ก็คือมือข้างขวาที่ไม่สามารถใช้การได้ แต่ตัวพ่อนั้นก็ไม่เคยแสดงให้พระเอกเห็นถึงความผิดปกติของพระเอกเลย ในขณะที่พ่อซ่อมจักรยานมักจะเรียกพระเอกให้ออกมาดูและให้ลองพยายามซ่อมจักรยาน ซึ่งพระเอกนั้นก็ไม่เคยที่จะชอบมันเลย แต่ในบั้นปลายชีวิตนั้นก็ได้นำความรู้ที่พ่อเคยสอนนั้นมาเปิดร้าน หลังจากที่สวนสัตว์ปิด

พระเอกมักบอกว่าอยากไปเที่ยว สถานที่ๆ พระเอกอยากไปก็คือสวนสัตว์ พ่อของพระเอกก็พาไปและสิ่งนึงที่พระเอกชอบช้าง ก็คือมันมีแต่งวงที่ใช้สำหรับหยิบจับ ซึ่งก็เทียบได้กับพระเอกซึ่งมีมือเดียวที่ใช้งานได้

พ่อของพระเอกหลังจากออกโรพยาบาลนั้นก็ได้ไปที่บ้านของคนรักของพระเอก ซึ่งดูเหมือนจะไปขอร้องอะไรซักอย่างแทนพระเอก ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เห็นว่าพ่อของพระเอกนั้นยังคงรักและดูแลพระเอก แต่สุดท้ายพระเอกก็มารับตัวพ่อกลับบ้านไป และความรักของพระเอกกับคนรักนั้นก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้

ในช่วงเวลากลับบ้านนั้นมีทุกคนขึ้นรถยนต์กลับหมด และพระเอกก็เข็นรถจักรยานกลับ แต่อยู่ๆ พ่อของเค้าก็ไม่ยอมนั่งรถยนต์กลับเดินออกมาหาพระเอก และยอมเดินกลับบ้านเป็นเพื่อนพระเอก

ตลอดเวลานั้นที่ผ่านมาพ่อเค้านั้นสอนพระเอก ปกป้อง และดูและพระเอกเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นพ่อตัวอย่างได้เลยครับ (ประทับใจมากมาย)

สุดท้ายครับ ความรักที่มีต่อตัวเอง

ผมดูแล้วรู้สึกว่าพระเอกนั้นจะเป็นคนที่เกลียดโลกมาตลอดแต่สุดท้ายเมื่อเวลาเปลี่ยนไปและคุณพ่อของเค้าจากไป พระเอกก็ได้กลับมาใส่ใจตัวเองและทำตัวเองให้มีค่า และเปิดโอกาสให้กับตัวเอง(ไปจีบคุณครูอนุบาล)ซึ่งทำให้เห็นว่าสิ่งนี้ไม่ได้มีผลแค่ตัวเองแต่สุดท้ายคนรอบข้างนั้นก็ยังได้รับความรักในส่วนนี้ไปด้วย

โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่าเรื่องนี้นั้นเป็นหนังที่มีครบทุกรสเลยครับ และอยากที่จะให้ทุกคนได้ลองดูมัน

ฝากไว้อีกนิดนึง ในหนังคุณแม่ของพระเอกมีสิ่งนึงที่อยากทำคือการถ่ายรูปครอบครัว ซึ่งเมื่อได้ถ่ายกันแล้ว ก็ทำให้รู้ว่ามันจะมีค่าเมื่อไหร่ ลองไปดูได้ในหนังด้วยตัวเองครับ




สวัสดีครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)