ปราสาทสัจธรรม - The Sanctuary of Truth

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ผมเคยมาตั้งนานแล้ว จนจำไม่ได้ว่าปีไหนแต่จำความอลังการและความสวยงามได้ ซึ่งบริษัทก็ได้มีการจัดพนักงานให้ไปดูงานที่ท่าเรือและก็ใจดีพาพนักงานมาเยี่ยมชม ทำให้ผมได้กลับมา ปราสาทสัจธรรมอีกครั้ง ซึ่งปราสาทแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพครับแถวๆพัทยาเหนือ ตรงโรงเกลือซอย 12 ซึ่งหากใครที่ยังไม่เคยไปมาดูความสวยงามของปราสาทก็แนะนำให้มาดูครับ แต่ค่าตั๋วอาจจะสูงหน่อย แต่ผมเชื่อว่าไม่ผิดหวังครับ

จริงๆแล้วปราสาทแห่งนี้จะให้รถจอดด้านนอกแล้วก็จะมีรถพามาส่งที่ตัวปราสาท หรือจะเดิน หรือนั่งรถม้า  แต่ด้วยความที่บริษัทพาคนมาจำนวนมากกว่า 30 คนเจ้าหน้าที่เลยให้ขับรถเข้ามาถึงปราสาทจะได้ไม่ต้องรอรถต่อให้เสียเวลาครับ

ขอเกริ่นหน่อยว่า ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ซึ่งคุณเล็กได้สร้างช้างสามเศียร และเมืองโบราณด้วย ปราสาทแห่งนี้ทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งหมดซึ่งอาศัยการแกะสลัก และจะใช้การเข้างานแบบโบราณให้ลิ่มตอกจะไม่ใช่ตะปูครับ ความพิเศษอยู่ที่สถานที่ ที่ติดทะเลทำให้ไม้นั้นก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติดังนั้นจึงมีการซ่อมไปสร้างไป ซึ่งตอนที่ผมไปเค้าบอกว่า สร้างไปแล้ว 33 ปี ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จภายใน 50 ปีครับ (ดังนั้น อีกยี่สิบปีมาดูตอนเสร็จอีกครั้ง)

ทางเข้าจะเห็นช่างแกะสลักนั่งแกะสลักไม้กัน ซึ่งสังเกตมามีชาวต่างชาติ(เพื่อนบ้าน)มาช่วยแกะด้วย ผมเดินชมแล้วก็ทึ่งในฝีมือว่า อุปกรณ์แค่สิ่วกับค้อนจะสามารถสร้างชิ้นงานได้สวยงามขนาดนี้เชียวหรือ ต้องอาศัยความอดทนฝีมือ และความพยายามเป็นอย่างยิ่งครับ
ก่อนเข้าชมปราสาทจะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบาย และมีแบบจำลองปราสาทให้ชม ซึ่งแค่แบบจำลองก็ดูสวยงาม เป็นการนำไม้มาขัดกันเพื่อสร้างเป็นปราสาท หลังจากฟังประวัติกันคร่าวๆ แล้วก็รับหมวกนิรภัยแล้วก็เดินไปชมปราสาทกันครับ
ระหว่างทางเดินรอบๆ ปราสาทก็จะมีมุมที่ไม่มีความเหมือนกันเลย เป็นการผสมผสานความเป็นศิลปะหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะ จีน เขมร พราหมณ์ ไทยและอาจจะมีชาติอื่นๆด้วยครับแม้อากาศร้อนแต่ระหว่างทางเดินไปเข้าปราสาทกลับไม่รู้สึกร้อนเพราะว่าเดินไปชมความงามไปด้วย
ผมรู้สึกชอบมากกับมุมนี้ศิลปะเค้าเป็นเอกลักษณ์มากๆครับ มองไปที่เศียรแล้วทำให้คิดถึงตอนที่เที่ยวที่เขมรเลยครับ แต่ปราสาทแห่งนี้ให้ความแตกต่างไปคนละแบบครับ
ผมสังเกตจากบันไดทางขึ้นให้รู้สึกความเป็นยุโรปหน่อยๆเหมือนอยู่ในตำนานเทพ
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้วหันกลับไปมองก็จะเห็นทะเลครับ เหมือนอยู่กันคนละโลกเลยครับ ปราสาทกับเมืองพัทยาใกล้กันมากๆ เดินเข้าไปในปราสาทกันเลยครับ
เมื่อเดินเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นกลางปราสาท ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรซึ่งจุดนี้จะคล้ายๆกับเจดีย์ซึ่งจะมีบันไดห้าขั้นซึ่งถือว่าเป็นศีลห้า ด้านบนฉัตรสามชั้นเปรียมเสมือนศิล สมาธิ ปัญญา และด้านบนสุดมีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย

ภายในปราสาทจะมีทั้งหมดสี่ห้องครับ ไปชมห้องแรกกันเลย
ภายในห้องนี้จะมีเทพประจำธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟครับ
จากนั้นเดินไปอีกห้องนึงครับซึ่งนี้จะมีวิวข้างนอกจะเป็นทะเลครับ สวยมากๆ ลมเย็นครับหากใครไม่ได้นำกล้องถ่ายรูปมาก็จะมีพนักงานเดินตามถ่ายรูป เพื่อไปเข้ากรอบได้ครับ อุดหนุนพี่ๆเค้าหน่อยครับ เพราะว่าเค้านั่งรอเราและตั้งใจถ่ายรูปเรามากๆครับ
สำหรับห้องที่สอง จะเป็นเทพและพาหนะประจำวันเกิดครับ ซึ่งห้องนี้ก็ค่อนข้างที่จะสวยเดินๆไปจินตนาการได้ว่าเราอยู่ใน Tomb Raider ครับ พอมองออกไปจะเห็นวิวทะเล และมีลมทะเลทำให้อยู่ในปราสาทแล้วรู้สึกเย็นสบายครับ
จากนั้นก็เดินไปที่กลางโถงห้องครับ

ไกด์เราบอกว่าเสาเอกอยู่ตรงนี้เองครับ
เสาเอกอยู่ด้านขวานะครับ ที่มีการแปะทองคำเปลวไว้ซึ่งตามความเชื่อคนไทยให้สามารถขอพรได้ และยังมีโต๊ะให้สามารถสักการะได้เช่นกัน

หลายๆคนขณะอยู่ในปราสาทก็ต่างถ่ายรูปกัน เพราะว่ามุมที่นี้สวยทุกมุม เป็นศิลปะจากไม้ทั้งหมดซึ่งไม่ได้หากันง่ายๆ หากใครที่ชอบถ่ายรูปคงจะอยู่ได้เป็นวันๆเลยครับ

ผมประทับใจกับระเบียงตรงนี้มากๆ จะเป็นลักษณะครึ่งตัวบนเป็นคน ส่วนครึ่งร่างเป็นพญานาค สวยมากๆครับ แต่กล้องผมถ่ายหมดไม่ได้ต้องแบ่งถ่าย


เมื่อผมมัวแต่ถ่ายรูปจนคนอื่นเดินไปห้องอื่นก็เลยอาศัยโอกาสนี้ถ่ายรูปเดี่ยวซะหน่อย เพราะว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้จะมีง่ายๆ ครับ
ยิ่งไม่มีคนยิ่งเห็นถึงความใหญ่โต อลังการมากๆครับ
พอใกล้ทางออกผมเหลือบขึ้นไปดูด้านบนเห็นบันไดที่ช่างต้องปีนขึ้นแล้วก็เสียวแทนเพราะว่าสูงมากๆครับ นอกจากต้องมีฝีมือด้านการแกะสลักแล้วยังต้องทำงานที่สูงอีกด้วย
 ขอถ่ายภาพด้านบนให้เห็นครับ มีงามเหมือนเคลือบทองอยู่บนเพดานเลยครับ

 จากนั้นมาถึงห้องสุดท้าย ตรงทางออกคือห้องพ่อแม่ครับ ก็จะมีหุ่นแกะสลักสวยงามมากๆครับ และข้างๆก็มีรูปของผู้สร้างด้วยครับ น่านับถือมากๆที่ได้สร้างงานศิลปะอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยได้ดู และยังให้ต่างชาติได้ชมด้วยครับ
นอกจากการชมปราสาทแล้วยังมีการนั่งเรือไปชมปลาด้วยนะครับ แต่ด้วยเวลาน้อยเลยไม่ได้นั่งไปครับ

หากได้ไปพัทยาแล้วสนใจดูศิลปะล้ำค่าอย่าลืมแวะที่นี้นะครับ
สวัสดีครับ

face2cu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึก รักษาปลากัดท้องมาน ท้องป่อง Dropsy

บันทึกรักษารากฟัน

บันทึกตาปลา(Corns)